การตลาด 4E เป็นนวัตกรรมด้านการตลาดยุคใหม่ ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน หากเปรียบเทียบกับเมื่อก่อน ตัวเลือกของสินค้ามีอย่างจำกัด จนทำให้บางแบรนด์ครองตลาดของสินค้าชนิดนั้นๆไปเลยก็ว่าได้ ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นเมื่อก่อน คุณต้องการน้ำยาล้างจานเพื่อใช้สอย คุณมักจะใช้ชื่อแบรนด์เรียกแทนสิ่งนั้นไปเลย เช่น ต้องการซื้อซันไลต์ ทั้งที่จริงๆแล้วคุณต้องการซื้อน้ำยาล้างจานยี่ห้ออื่นก็ได้ ด้วยเหตุนี้การตลาดจึงมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างอัตลักษณ์ให้แก่สินค้า และเพื่อตอบสนองความต้องการตามสถาณการณ์ที่เปลี่ยนไปของสังคม หากการถึงคำนิยามของ การตลาด 4E นักเขียนหรือนักการลาดก็ได้นิยามคำเหล่านั้นไว้ดังนี้
1.Price >> “Exchange”
หากเป็นการตลาดในเมื่อการแข่งกันด้วยการลดราคาต้นทุน เพื่อให้สินค้าสามารถขายได้ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งในตลาดเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึง แต่ในปัจจุบันเมื่อพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญที่ราคาสินค้า แต่ให้ความสนใจเรื่อง “ความคุ้มค่า” มากกว่า เปรียบเหมือนกับการแลกเปลี่ยนความพึงพอใจของทั้งสองฝ่ายระหว่างตัวธุรกิจและผู้บริโภค ซึ่งไม่ว่าสินค้าราคาเท่าไหร่ แต่ถ้าผู้บริโภคชั่งใจแล้วว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป ก็จะตัดสินใจซื้อ
2.Place >> “Everywhere”
ในอดีต การมีหน้าร้านและทำเลเหมาะๆ สำหรับขายสินค้าถือเป็นจุดแข็งในด้านการขาย แต่ในปัจจุบัน ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้เชื่อมต่อผู้ขายสินค้าและลูกค้าเข้าด้วยกัน ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้จากทุกหนทุกแห่งทั่วโลกเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต
3.Product >> “Experience”
ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเลือกสินค้าที่สามารถสร้างความสะดวกสบายกว่าและสร้างความสุขได้มากกว่า ซึ่งคือประสบการณ์ที่มาจากการนำเสนอภาพลักษณ์ของแบรนด์และการสร้างความรู้สึกเกี่ยวข้องกับบริษัท ดังนั้นการเอาชนะคู่แข่งทางการตลาดในยุคนี้คงไม่พ้นเรื่องของการ “สร้างประสบการณ์” เพื่อให้เกิดผลลัพธ์แบบที่ผู้บริโภคจะต้อง “หลงรัก” และอยู่กับเราไปยาวนาน
4.Promotion >> “Evangelism”
การออกแคมเปญลด แลก แจก แถม แบบการตลาดสมัยก่อนอาจไม่ได้รับความนิยมมากนักในปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคยุคใหม่มักมีความพึงพอใจหรือความชอบในแบรนด์ที่บริโภคเป็นประจำอยู่แล้ว หรือที่เรียกว่า “Evangelism (สาวก)” ตามที่จะได้ยินจากสื่อต่างๆ เช่น สาวกไอโฟน ดังนั้นกลยุทธ์การชิงส่วนแบ่งตลาดแบบเดิม ๆ อาจใช้ไม่ได้ผล หากเรายังไม่สามารถเปลี่ยนลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าขาประจำได้
จากการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ข้างต้นแสดงให้เห็นถึง ความต้องการของผู้บริโภคที่มีอิทธิพลต่อการตลาดเป็นอย่างมาก ดังนั้นการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมทางด้านความคิดและเทคโนโลยี จึงเป็นสิ่งนักการตลาดไปจนถึงผู้บริหารส่วนใหญ่คำนึงถึง อินเตอร์เน็ตกลายเป็นตัวทำลายพรมแดนทางด้านความคิด การซื้อขาย หรือแม้กระทั่งความรู้
เพื่อพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ การศึกษาจากการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นปัจจัยสำคัญในความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ??
ขอบพระคุณช่องทางข่าวสาร bangkoktoday.net
ข้อมูลและข่าวสารผ่านช่องทางไลน์ คลิ๊ก Bangkoktoday