ราคาทองคำในปี 2558 ยังคงเป็นแนวโน้มช่วงขาลง จากปัจจัย เงินดอลลาร์ น้ำมัน ฉุด ราคาทองคำปีนี้ นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจีบูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดมองภาพรวมราคาทองคำในปีนี้ (2558) ยังคงเป็นแนวโน้มช่วงขาลง เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานนั้นค่อนข้างกดดันราคาทองคำ
โดยเฉพาะประเด็นนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นช่วงกลางปีนี้(2558) และการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์อย่างต่อเนื่องได้กดดันราคาทองคำมาตลอด ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวได้ฉุดราคาทองคำให้อ่อนตัวลงนอกจากนี้ กองทุน SPDR ได้ลดการถือครองทองคำเป็นจุดต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี
ราคาทองคำ ในปี 2558 ทางฮั่วเซ่งเฮงคาดการณ์ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,100-1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเด็นที่คาดว่าจะมีผลต่อราคาทองคำมากที่สุดคือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ทั้งนี้ ราคาทองคำตอบรับประเด็นลบต่างๆ ไปพอสมควร ทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง ถ้าเฟดไม่ได้มีการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้ในช่วงกลางปี 2558 คาดว่าไม่น่าจะเห็นแรงเทขายทองคำอย่างหนักในปี 2558 ถึงแม้ความต้องการทองคำเพื่อป้องกันอัตราเงินเฟ้อจะลดลงตามราคาน้ำมัน แต่ในอีกมุมมองหนึ่ง อาจทำให้เฟดเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อาจจะลดลงและไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2% สำหรับนโยบายของอีซีบีที่มีการผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น ที่สำคัญคือ การคาดการณ์ว่าจะมีการออกมาตรการซื้อพันธบัตรรัฐบาล (มาตรการ QE) ในปี 2558 อาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวลง อย่างไรก็ดี ราคาทองคำมีปัจจัยหนุนจากความต้องการทองคำจริงจากจีนและอินเดียที่คาดฟื้นตัว โดยเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ จะได้รับอานิสงส์ทางบวกจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง และนอกจากนี้เมื่อปลายปี 2557 ทางศูนย์วิจัยทองคำยังเคยคาดการไว้ว่า ปี 2558 ราคาทองอาจดิ่งเหลือ 15,000 บาท
ขอบคุณ voicetv.co.th,ไทยรัฐ
เรียบเรียงโดย บางกอกทูเดย์