ห้ามใช้คริปโตชำระสินค้าและบริการ เริ่มวันที่ 1 เมษายนนี้ จากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และ สำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้หารือร่วมกันถึงประโยชน์และความความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัล และเห็นความจำเป็นในการกำกับดูแลและควบคุมการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระสินค้าและบริการ ซึ่งถือว่ายังมีความเสี่ยงสูงทั้งความเสี่ยงจากการสูญมูลค่าที่เกิดจากความผันผวนของราคา ความเสี่ยงจากการโจรกรรมทางไซเบอร์ การถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือของการฟอกเงิน และยังมีผลต่อสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมอีกด้วย
เริ่มแล้ว! วันที่ 1 เมษายนนี้
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 ได้มีมติเห็นชอบหลักการการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในการจำกัดการให้บริการนำสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสื่อกลางในการชำระสินค้าและบริการ และได้ออกประกาศเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจทัล ดังนี้
- ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องไม่ให้บริการหรือการกระทำที่บ่งบอกว่าสนับสนุนหรือส่งเสริมการชำระสินค้าและบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล หรือการแสดงออกว่าตนพร้อมให้บริการชำระสินค้าหรือบริการแก่ร้านค้า หรือการจัดทำระบบเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการชำระสินค้าแบะบริการ
- ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลพบว่า ลูกค้าใช้บัญชีเพื่อการซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าและบริการ ผู้ประกอบการต้องเตือนลูกค้าว่าไม่สามารถทำได้เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ และหากลูกค้าไม่ปฏิบัติตามให้ผู้ประกอบการระงับการให้บริการชั่วคราว
มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 โดยให่ผู้ประกอบธุรกิจปฏิบัติตามกำหนดภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ประกาศมีผลบังคับใช้
ขอบคุณของมูลจาก SEC