สุดยอด!! มช. วิจัยสำเร็จ ผลิต “ถั่งเฉ้า” จากดักแด้ไหมแห่งแรกของไทย

ทีมวิจัยคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จผลิต “ถั่งเฉ้า” จากดักแด้ไหมได้เป็นแห่งแรกของประเทศไทย ด้วยความร่วมมือจากกรมหม่อนไหม และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เพิ่มมูลค่าดักแด้ไหมไทย ยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ด้วยราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 60,000-100,000 บาท

รองศาสตราจารย์ ดร.จิราพร กุลสาริน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รองศาสตราจารย์ ดร.จิราพร กุลสาริน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อาจารย์ ดร.วรรณพร ทะพิงค์แก คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อาจารย์ ดร.วรรณพร ทะพิงค์แก คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

รองศาสตราจารย์ ดร.จิราพร กุลสาริน  และอาจารย์ ดร.วรรณพร ทะพิงค์แก ผู้จัดทำโครงการวิจัยผลิตถั่งเฉ้า จากดักแด้ไหม คณะเกษตรศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ถั่งเฉ้า มีความหมายว่า หญ้าหนอน เป็นเชื้อรากินแมลงซึ่งมีฤทธิ์ทางยา ใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคต่างๆ และเป็นอาหารเสริมสุขภาพ มีสรรพคุณทางด้านต่างๆ อาทิ รักษามะเร็ง บำรุงร่างกาย บำรุงไต หัวใจ ปอด หลอดลม กล่องเสียง เสริมอายุวัฒนะ ป้องกันเบาหวาน ความดัน เสริมสมรรถภาพทางเพศ และยังเป็นวัตถุดิบผลิตเครื่องสำอางทำให้ผิวขาวใส ผิวหน้ากระชับตึง ด้วยสรรพคุณมากมายนี้ทำให้ถั่งเฉ้ามีความต้องการในท้องตลาดสูง และมีราคาถึงกิโลกรัมละ 60,000-100,000 บาท

สุดยอด!! มช. วิจัยสำเร็จ ผลิต “ถั่งเฉ้า” จากดักแด้ไหมแห่งแรกของไทย

โครงการวิจัยผลิตถั่งเฉ้าจากดักแด้ไหมในครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานงานวิจัยใน “โครงการศึกษาแนวทางการเพาะเลี้ยงเชื้อรา Isaria tenuipes บนดักแด้ไหม (Bombyx mori) เพื่อผลิตเป็นถั่งเฉ้า” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ร่วมกับ กรมหม่อนไหม และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ โดยที่ผ่านมาโครงการเพาะเลี้ยงถั่งเฉ้าของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีการทดลองเพาะเลี้ยงถั่งเฉ้าใน 2 สายพันธุ์ ได้แก่ ถั่งเฉ้าสีทอง และถั่งเฉ้าหิมะ ซึ่งใช้ข้าวเป็นฐานในการเพาะเลี้ยง ปรากฏว่าประสบความสำเร็จสามารถเพาะเลี้ยงถั่งเฉ้าให้เจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี จึงได้ดำเนินการต่อยอดการวิจัยดังกล่าว ด้วยการร่วมกับกรมหม่อนไหม และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ดำเนินงานวิจัยในโครงการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ดักแด้ไหม และสร้างแรงจูงใจให้แก่เกษตรกรในการประกอบอาชีพด้านหม่อนไหม เนื่องจากหากเพาะเลี้ยงดักแด้ไหมเพื่อขายตามปกติจะมีราคาอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 100 บาท แต่หากนำมาใช้ในการเพาะเลี้ยงถั่งเฉ้าจะได้ราคาที่สูงกว่าอีกหลายเท่า นับเป็นการเพิ่มมูลค่าดักแด้ไหมไทย สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรประกอบอาชีพด้านหม่อนไหม เพิ่มความมั่นคงในอาชีพผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอย่างยั่งยืน ยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและทอผ้าไหมให้ดีขึ้น

สุดยอด!! มช. วิจัยสำเร็จ ผลิต “ถั่งเฉ้า” จากดักแด้ไหมแห่งแรกของไทย

สุดยอด!! มช. วิจัยสำเร็จ ผลิต “ถั่งเฉ้า” จากดักแด้ไหมแห่งแรกของไทย

สุดยอด!! มช. วิจัยสำเร็จ ผลิต “ถั่งเฉ้า” จากดักแด้ไหมแห่งแรกของไทย

สำหรับแนวความคิดเรื่องการเพาะเลี้ยงถั่งเฉ้าบนดักแด้ไหมเกิดจากสภาพตามธรรมชาติของถั่งเฉ้าที่เจริญเติบโตบนตัวหนอนหรือแมลงอยู่แล้ว แต่การทดลองเพาะเลี้ยงที่ผ่านมาใช้วัสดุอื่นเป็นฐานในการเพาะเลี้ยง  จนกระทั่งเมื่อสามารถเพาะเลี้ยงถั่งเฉ้าหิมะและถั่งเฉ้าสีทองได้สำเร็จ จึงได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการเพาะลี้ยงบนแมลงอีกทางหนึ่ง และจากความร่วมมือกับกรมหม่อนไหม จึงได้เลือกใช้ดักแด้ไหมมาเป็นวัสดุในการเพาะเลี้ยง และเลือกเพาะเลี้ยงถั่งเฉ้่าหิมะก่อนเป็นชนิดแรก

การเพาะเชื้อราบนดักแด้ไหมมีขั้นตอน คือ การนำดักแด้ไหมแช่น้ำยาฆ่าเชื้อ แล้วฉีดสารละลายเข้าไปในตัวดักแด้หนอนไหม หรือจุ่มดักแด้ในสารละลายที่มีหัวเชื้อราถั่งเช่าหิมะ หลังจากนั้นนำไปเก็บในห้องมืดที่อุณหภูมิ 20-25 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 25-30 วันเพื่อให้เส้นใยเห็ดเจริญเติบโตเต็มที่

จากทดลองมาอย่างต่อเนื่องโดยได้รับการสนับสนุนดักแด้ไหมจากกรมหม่อนไหม พบว่าสามารถเพาะเลี้ยงถั่งเฉ้าหิมะบนดักแด้ไหมได้สำเร็จและให้ผลผลิตเป็นอย่างดี จึงเตรียมที่จะทดลองเพาะเลี้ยงถั่งเฉ้าสีทองบนดักแด้ไหมเป็นลำดับต่อไป เนื่องจากการเพาะเลี้ยงถั่งเฉ้าบนดักแด้ไหมทำให้ได้ถั่งเฉ้าที่มีสารสำคัญต่างๆ ในปริมาณมากกว่าถั่งเฉ้าที่ได้จากการใช้ข้าวเป็นฐานเพาะเลี้ยง

นอกจากการทดลองเพาะเลี้ยงแล้ว คณะผู้วิจัยยังได้ทดลองเกี่ยวกับการแปรรูปถั่งเฉ้าที่ได้ในลักษณะต่างๆ เช่น นำมาทำเป็นยา สกัดสารเคมีมาใช้ในด้านเวชสำอาง หรือประยุกต์วิธีการบริโภคง่ายๆ เช่น อบแห้งในรูปแบบของชา ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประสานไปยังหน่วยงานอื่นๆ เช่น คณะแพทยศาสตร์หรือคณะเภสัชศาสตร์ เพื่อศึกษาว่าจะสามารถนำถั่งเฉ้าที่ได้จากการเพาะเลี้ยง รวมถึงสารต่างๆ ที่สกัดได้จากถั่งเฉ้ามาใช้ประโยชน์อย่างไรได้บ้าง

ราคาขายถั่งเฉ้าในท้องตลาดปัจจุบัน หากเป็นถั่งเฉ้าสีทองราคากิโลกรัมละประมาณ 60,000-100,000 บาท ส่วนถั่งเฉ้าหิมะราคากิโลกรัมละประมาณ 10,000 บาท ซึ่งจากการวิจัยพบว่าการผลิตถั่งเฉ้าแห้ง 1 กิโลกรัม จะต้องใช้ถั่งเฉ้าสดประมาณ 6-10 กิโลกรัม โดยถั่งเฉ้าสีทองนิยมนำไปใช้ในการรักษาและบำรุงสุขภาพ ส่วนถั่งเฉ้าหิมะนิยมนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง

นับได้ว่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นที่แรกของประเทศไทย ที่สามารถเพาะเลี้ยงเชื้อราบนดักแด้ไหมไทยได้ และปัจจุบันคณะผู้วิจัยกำลังต่อยอดโครงการดังกล่าว เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดต่อไป

ขอบคุณ prcmu.cmu.ac.th

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *