ปลูกดอกขจรหรือดอกสลิดขาย สร้างรายได้ต่อเนื่อง เพราะว่าดอกขจรมีข้อดีตรงที่อายุต้นยืนยาว ต้นขจรอยู่ได้นานเป็น 10 ปี มีข่าวออกสื่อบ่อยๆให้ชมกันว่าปลูกดอกขจรหรือดอกสลิดขาย 1ไร่ ทำรายได้ วันละ 2,000-3,000 บาท นั่นคือรายได้ 50,000-100,000 บาท ต่อเดือนต่อไร่ เป็นไปได้ หากมีการดูแลวางแผนการปลูกการขายอย่างดี ถ้ามีสัก 2 ไร่ เชื่อแน่ว่า รายได้หลักแสนบาทนั้น ไม่ยากอย่างที่คิดแน่นอน บางกอกทูเดย์มีวิธีการปลูกขจรมาแนะนำด้วย
ดอกสลิดหรือขจร [cowslip creeper] , กะจอน, ขะจอน, สลิดป่า, ผักสลิดคาเลา, ผักขิก เรียกแตกต่างกันไปตามพื้นที่ เป็นผักที่สร้างรายได้น่าสนใจ เพราะราคาขายโดยเฉลี่ยประมาณ 90-200 บาท ต่อกิโลกรัม เป็นอีกทางเลือกทารลงทุนทำเกษตรที่น่าสนใจมากๆ ขจรเป็นไม้เลื้อย ดอกมีกลิ่นหอมในยามที่ดอกบาน และมีลักษณะดอกเล็กๆ เป็นช่อ นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง ความต้องการบริโภคดอกขจรมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ดอกขจรจึงได้ผันมาเป็นพืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ผู้ปลูกอย่างต่อเนื่อง
ปลูกขจรขาย สร้างรายได้ต่อเนื่อง
ดอกขจรขายสร้างรายได้ดี กิโลกรัมละ 90 บาท ช่วงหน้าหนาวราคาพุ่งถึงกิโลกรัมละ 200 บาท สำหรับใครที่สนใจทำเกษตร ทั้งแบบเน้นปลูกพืชผักชนิดเดียวขายหรือปลูกพืชผสม ก็น่าสนใจ เพราะดอกขจรสามารถเก็บขายได้เรื่อยๆ
ขั้นตอนการปลูกต้นขจร
การเลือกกิ่งพันธุ์ขจร คัดเลือกเครือดอกสลิดที่มีลักษณะสมบูรณ์ โดยสังเกตุจากเครือที่โตสมบูรณ์และใบร่วงหมดแล้ว หากเจอเครื่อที่มีลักษณะนี้ถือว่าเป็นเครือที่สมบูรณ์เหมาะแก่การนำไปขยายพันธุ์ต่อ
การเตรียมกิ่ง/การขยายพันธุ์ : ทำการเลือกตัดตรงข้อให้ได้ 2 ข้อ ข้อละ 2 เซนติเมตร แล้วนำส่วนที่เป็นตาข้อที่ตัดออกมาปักลงดินลึกเพาะชำลึก ประมาณ 1-2 เซนติเมตร
การเตรียมดิน :จำมูลไก่ จำนวน 10 กระสอบ มาเทไว้รอบพื้นที่ ที่ต้องการปลูกพร้อมกับไถพรวนกลบ หลังจากไถกลบแล้วให้ตากแดดทิ้งไว้ 2 อาทิตย์ และทำการยกร่องแปลงให้มีความกว้าง 6-4 เมตร ส่วนความยาวให้ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ยาวไม่จำกัด ระยะห่างระหว่างแปลง 80 ซม.
วิธีการปลูกขจร : ใช้ระยะปลูก 2×2 เมตร 1 ปลูกแบบ 2 แถวใน 1 แปลง ขุดหลุมลึก 30-50 ซม. จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกลงไปให้มากและ ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หลุมละ 1 ช้อนแกง นำกล้าพันธุ์ลงปลูก เกลี่ยดินกลบโคนให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม ใน 1 หลุมปลูก 2-3 กิ่ง การให้น้ำรดน้ำวันละครั้งหรือตามสภาพความชื้นของดิน หลังจากนั้น 1 เดือนขึ้นไปจะเริ่มออกดอก หรือ ให้น้ำอย่างเพียงพอหลังจากที่ปลูกไปได้ประมาณ 5 เดือน ดอกสลิดจะเริ่มออกดอกและเก็บผลผลิตได้
การทำค้างให้เถาเลื้อย ให้ต้นขจร การทำค้างควรเป็นใช้เสาไม้เป็นหลักหลัก 2 เสา ปักห่างกัน 2 เมตร สูงจากพื้นดิน 1.50 เมตร ปักตามแนวยาวของแปลง และระหว่างเสาหลักจะใช้ไม้ไผ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 นิ้ว ปักแล้วใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกผูกเป็นขั้นบันได 5-6 ขั้น ให้เป็นทางสำหรับยอดขจรเลื้อยขึ้นไป จะเป็น 1 ซุ้มเว้นทางเดินประมาณ 80 ซม. แล้วทำซุ้มต่อไปตามความต้องการก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้การแตกยอดดี
การให้ปุ๋ยต้นขจร เน้นการให้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำสูตรใดก็ได้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และ ใส่ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักใส่ที่โคนต้นได้เรื่อยๆ ส่วนปุ๋ยเคมีใช้สูตร 15-15-15 สลับกับ 25-7-7 เดือนละ 2 ครั้ง
การดูแลรักษา ใช้น้ำหมักชีวภาพดูแลบำรุงและปราบศัตรูพืช ซึ่งสูตรที่ใช้ได้ผลดี คือ น้ำเปล่า 12 ลิตร + สะเดา ตะไคร้หอม ข่า รวมกัน 10 กิโลกรัม หมักทิ้งไว้ 7 วัน และนำน้ำหมักที่ได้ไปใช้ผสมกับน้ำที่ใช้รดต้นไม้
การเก็บดอกขจร หลังปลูกลงแปลงประมาณ 5 เดือน เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยการเก็บเกี่ยวนั้นจะใช้กรรไกรตัดแต่งกิ่งคมๆ ตั้ดตรงขั้วก้านดอก เก็บเกี่ยวแต่เช้ามืด แบบวันเว้นวัน และควร ตัดแต่งกิ่งต้นขจร เรื่องนี้สำคัญ ควรแต่งกิ่งที่แก่ออกอยู่เสมอ เพื่อให้แตกยอดใหม่ออกมาเรื่อยๆ ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ควรแต่งกิ่งให้โล่ง เพราะช่วงนี้จะออกดอกน้อย และต้องแบ่งแปลงไว้เพื่อให้มีแปลงที่เก็บดอกได้ เพราะช่วงนี้จะขายได้ราคาดี ต้นขจรจะให้ดอกหลังจากย้ายปลูกได้ 30 วัน และจะให้ผลผลิตมากที่สุดช่วงอายุ 8-10 เดือน (ช่วงหน้าหนาวราคาดอกขจรจะสูง ขายได้ราคาดีเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว)
ต้นทุนการปลูกขจร
ต้นทุนที่สำคัญหลักๆจะมาจาก กิ่งพันธุ์ ไม้ไผ่เพื่อทำราวหรือค้าง ตลอดจนค่าวัสดุอื่นๆ น้ำและปุ๋ย หากสามารถทำปุ๋ยอินทรีย์ใช้เองได้แล้ว ต้นทุนจะลดลง การลงทุนจะมากแค่ช่วงแรก ดอกขจรมีข้อดีตรงที่อายุต้นยืนยาว อยู่ได้นานเป็น 10 ปี การตัดแต่งกิ่งบ่อย ทำให้เก็บดอกขจรขายกันทุกวันๆ การลงทุนต่อไร่ใช้เงินทุนราวๆ 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับต้นทุนหลักๆ คือ ต้นพันธุ์ขจร และวัสดุที่ใช้ทำค้าง ตลอดจนค่าแรงหากมีการจ้างคนงานด้วย ตรงนี้ผู้ประกอบการต้องมีการคำนวณต้นทุนให้ละเอียด ส่วนเรื่องการทำตลาดหรือขายที่ขายดอกขจรนั้น ก่อนลงมือปลูกขายควรวางแผนไว้ล่วงหน้า จะขายปลีกที่ไหน ขายส่งที่ไหน ที่ไหนรับซื้อบ้าง….เพราะเรื่องการตลาดเป็นความลับทางธุรกิจที่ยากจะมีคนแนะนำ แต่เชื่อแน่ว่าเมื่อปลูกขายได้ได้ปริมาณมากและคุณภาพดีใช้ได้ พ่อค้าคนกลางอาจจะวิ่งมารับถึงที่ก็ได้
มีตัวอย่างเกษตรกรที่ปลูกดอกขจรขาย คุณไพศาล และคุณสุนันท์ สุตะเขตร์ ยึดอาชีพปลูกดอกขจร ดอกสลิดมานานเกือบ 10 ปีแล้ว โดยดอกขจรที่ปลูกนั้นมี 2 ไร่ ประมาณ 300 ต้น มีรายได้เกือบ 4,000 บาททุกวัน (ที่มา จาก สำนักข่าวไทย tnamcot.com/content/155111)
ขอบคุณที่มาเนื้อหาจก rakbankerd.com , สำนักข่าวไทย
เรียบเรียงโดย บางกอกทูเดย์.เน็ต www.bangkoktoday.net