เทคนิคขับรถลุยน้ำท่วมให้ปลอดภัย ประเทศไทยเป็นประเทศที่ประสบกับอุทกภัยบ่อยครั้ง ในช่วงฤดูฝน หลายพื้นที่อาจเกิดน้ำท่วมขัง ทำให้การสัญจรทางบกทำได้ยากลำบาก หลายคนอาจจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำท่วมเพื่อไปทำงานหรือทำธุระที่จำเป็น อย่างไรก็ตาม การขับรถลุยน้ำท่วมอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทั้งคนและรถได้ ดังนั้น จึงควรปฏิบัติตามเทคนิคต่อไปนี้เพื่อความปลอดภัยกันนะคะ
1. สังเกตระดับน้ำ
ระดับน้ำที่เหมาะสมในการขับรถลุยคือต่ำกว่าขอบล้อรถประมาณ 10 เซนติเมตร ไม่ควรขับรถลุยน้ำที่ท่วมสูงเกินระดับนี้ เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์ดับหรือรถจมได้
2. ลดความเร็ว
เมื่อขับลุยน้ำท่วมควรลดความเร็วลง เพื่อไม่ให้รถเสียการทรงตัว ความเร็วที่เหมาะสมคือประมาณ 5-10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
3. ใช้เกียร์ต่ำ
ควรใช้เกียร์ต่ำเพื่อควบคุมความเร็วและแรงฉุดของรถ
4. ปิดระบบเครื่องปรับอากาศ
น้ำอาจไหลเข้าระบบเครื่องปรับอากาศและทำให้ระบบเสียหายได้
5. รักษาระยะห่างคันหน้าให้มาก
ควรรักษาระยะห่างคันหน้าให้มากกว่าปกติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลื่นไถล
6. หากเครื่องดับ ห้ามสตาร์ทเครื่อง
หากเครื่องยนต์ดับระหว่างการลุยน้ำท่วม ห้ามสตาร์ทเครื่องทันที เพราะอาจทำให้น้ำไหลเข้าเครื่องยนต์มากขึ้น ควรรอให้ระดับน้ำลดลงก่อนจึงค่อยสตาร์ทเครื่อง
วิธีดูแลรถหลังลุยน้ำท่วม
- ล้างรถ
ควรล้างรถทั้งภายนอกและภายใน เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและน้ำออกจากรถ
- ตรวจสอบระบบเบรก
ควรเหยียบเบรกหลาย ๆ ครั้ง เพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก
- เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์
ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์ใหม่ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อาจปนเปื้อนเข้ามา
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้า
ควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าทั้งหมดของรถ เพื่อหาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
หากปฏิบัติตามเทคนิคเหล่านี้อย่างเคร่งครัด จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับรถลุยน้ำท่วมและลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อรถได้
เทคนิคเพิ่มเติม
- ไม่ควรขับรถสวนทางกับรถคันอื่น เพราะอาจทำให้เกิดคลื่นน้ำซัดเข้ารถได้
- ไม่ควรขับรถเร็วเกินไป เพราะอาจทำให้รถเสียการทรงตัวได้
- ควรหลีกเลี่ยงการขับรถผ่านบริเวณที่มีสิ่งกีดขวาง เช่น ท่อระบายน้ำ ต้นไม้ หรือเศษขยะ
การป้องกันที่ดีที่สุด
การป้องกันที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำท่วม หากเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยง เพราะการขับรถลุยน้ำท่วมอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทั้งคนและรถได้