[ข่าวหุ้น]GPSC ตั้งเป้าภายในปี 62 รายได้จากโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มเป็น 60%

GPSC ตั้งเป้าภายในปี 62 รายได้จากโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มเป็น 60% เผยรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า IRPC-CP เฟสแรกปีนี้ 45 MW ส่วนเฟส 2 เริ่มขายไฟฟ้ากลางปี 60 พร้อมเดินหน้าพัฒนาอีกหลายโครงการในอนาคต

นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมรับรู้รายได้จากการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า ไออาร์พีซี คลีน พาวเวอร์ หรือ IRPC-CP ซึ่งถือหุ้นโดย GPSC ในสัดส่วน 51% ซึ่งโรงไฟฟ้า IRPC-CP เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (Small Power Producer หรือ SPP) มีกำลังการผลิต 240 เมกกะวัตต์ และไอน้ำ 180 – 300 ตันต่อชั่วโมง ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าและไอน้ำกับบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ EGAT

โดยในระยะแรกนี้จะสามารถผลิตไฟฟ้าและขายไฟฟ้า 45 เมกกะวัตต์ และไอน้ำสูงสุด 100 ตันต่อชั่วโมงให้กับ IRPC ได้ภายในปี 2558 นอกจากจะทำให้การดำเนินงานของ GPSC มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแล้ว ยังทำให้รายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นตามเป้า ส่วนระยะที่ 2 จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมิถุนายน ปี 2560  พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการต่างๆ ในอนาคต ทั้งโครงการผลิตสาธารณูปการแห่งที่ 4 (Central Utility Plant 4 : CUP-4) และโครงการพลังงานหมุนเวียน อาทิ โครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางให้แก่ ปตท. ภายในพื้นที่เขตอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ กลุ่ม ปตท. (WEcoZi) ในนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย อ.บ้านฉาง จ.ระยอง, โครงการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร ร่วมกับจังหวัดระยอง และอบจ.ระยอง ฯลฯ

นอกจากนี้ GPSC ได้เดินหน้าพัฒนาโครงการอื่น ๆ ร่วมกับกลุ่ม ปตท. อย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากโครงการผลิตสาธารณูปการแห่งที่ 4 (CUP-4) เพื่อผลิตและจำหน่าย ไฟฟ้า ไอน้ำและสาธารณูปโภคจากระบบโคเจนเนอเรชั่นแก่ลูกค้าภายในพื้นที่อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ กลุ่ม ปตท. นิคมอุตสาหกรรมเอเซียแล้ว GPSC ยังได้พัฒนาโครงการเพิ่มอีกหนึ่งโครงการภายในพื้นที่ดังกล่าว ในการผลิตไอน้ำความดันต่ำสำหรับลูกค้าอุตสาหกรรม โดยใช้กะลาปาล์มซึ่งเป็นพลังงานสะอาดเป็นเชื้อเพลิง โดยได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่องการจัดหา จัดเก็บ และจัดส่งกะลาปาล์มกับ ปตท. ไปแล้วเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมาและคาดว่าจะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2560

สำหรับโครงการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร ซึ่ง GPSC ร่วมกับจังหวัดระยอง และอบจ.ระยอง เพื่อนำขยะไปแปลงเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ปัจจุบันการดำเนินงานยังคงเป็นไปตามแผนที่ได้กำหนดไว้

นายนพดล กล่าวว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัทฯ เป็นผลมาจากกลยุทธการเติบโตทางธุรกิจที่บริษัทฯ ได้วางไว้ ประกอบกับความเป็นมืออาชีพของพนักงานและผู้บริหาร GPSC ที่ได้ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าก่อนปี 2562 สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ จะมีโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นรายได้จากโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ 60% พลังงานแสงอาทิตย์และไบโอแมส 12% ถ่านหิน 12% และรายได้จากการจำหน่ายไอน้ำ 12% ที่เหลือจะเป็นเงินรายได้จากส่วนอื่นๆ เช่น พลังงานลม และน้ำเพื่ออุตสาหกรรม เป็นต้น

“เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานตามกลยุทธและแผนงานดดังกล่าว จะนำไปสู่ความสำเร็จตามแผนงานของบริษัทฯ ที่วางไว้ในอนาคต” นายนพดล กล่าว

อนึ่ง GPSC ถือหุ้นโดย บมจ.ปตท. (PTT) ในสัดส่วน 22.6% บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) 22.7% บมจ.ไทยออยล์ (TOP) 8.9% บจ. ไทยออยล์ พาวเวอร์ (TP) 20.8% และนักลงทุนทั่วไป 25% GPSC เป็นแกนนำในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. ดำเนินธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อจำหน่ายแก่ลูกค้าอุตสาหกรรม และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น (Equity MW) รวมประมาณ 1,872 เมกะวัตต์ ไอน้ำรวมประมาณ 1,512 ตันต่อชั่วโมง น้ำเย็นรวมประมาณ 12,000 ตันความเย็น และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมรวมประมาณ 2,080 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และมีแผนจะเพิ่ม Equity MW อีก 600-1,000 เมกะวัตต์ ภายในระยะเวลา 5 ปี

ขอบคุณที่มา สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย efinancethai.com

แชร์ต่อให้เพื่อน

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*