ธนาคารกสิกรไทย ผนึก ธ.ก.ส.หนุนธุรกิจเกษตรพืชไร่ซื้อขายผ่านระบบ

ข่าวน่าสนใจสำหรับธุรกิจเกษตรพืชไร่ กับบริการของธนาคารกสิกรไทยที่ร่วมมือกับ ธกส.  ครั้งแรกของธุรกิจธนาคารกสิกรไทยจับมือธ.ก.ส.ผนึกกำลังสนับสนุนธุรกิจเกษตรพืชไร่ เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อ-ขายเงินสด มาสู่การซื้อขายผ่านระบบธนาคาร หวังช่วยเพิ่มศักยภาพการซื้อขายพืชไร่ และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในอนาคต

นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทย มีลูกค้าที่ดำเนินธุรกิจด้วยการซื้อขายเงินสดเป็นหลัก ได้แก่ ธุรกิจจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ธุรกิจรับซื้อของใช้แล้ว (Recycle) และธุรกิจเกษตรพืชไร่ รวมมูลค่าเงินหมุนเวียนมากกว่า 82,100 ล้านบาทต่อปี โดยเฉพาะการค้าขายสินค้าเกษตรที่มีผู้ซื้อ-ขายอยู่ในระบบจำนวนมาก มีมูลค่าปีละหลายหมื่นล้านบาท ยังคงชำระด้วยเงินสดเกือบทั้งหมด ทำให้เกิดความเสี่ยงในการถือครองเงินสดและความยากในการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ

ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทย จึงร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนธุรกิจเกษตรพืชไร่ให้โอนชำระค่าผลผลิตผ่านระบบ โดยผู้ประกอบการลานเกษตรจะทำการจ่ายค่าผลผลิตให้แก่ผู้ขาย ทั้งผู้รวบรวมและเกษตรกร ผ่านระบบชำระเงินของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งระบบจะโอนค่าผลผลิตเข้าบัญชีออมทรัพย์ของเกษตรกรที่ธ.ก.ส.

การโอนเงินชำระค่าผลผลิตให้เกษตรกร จะลดความเสี่ยงจากการถือครองเงินสดจำนวนมากของผู้ประกอบการลานเกษตร ช่วยเพิ่มโอกาสในการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรได้มากขึ้น เพราะไม่ต้องสำรองเงินสดเป็นจำนวนมาก รวมทั้งส่งผลดีต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลานเกษตรในการขอสินเชื่อเพิ่มเติมในอนาคต เนื่องจากธนาคาร จะทราบถึงวัตถุประสงค์ของการใช้เงินที่แท้จริง
นายพัชร กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถให้บริการธุรกิจเกษตรพืชไร่ได้ครบตลอดทั้งวงจรธุรกิจ ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจพืชไร่รายใหญ่ หรือลานเกษตร ซึ่งจะรับซื้อผลผลิตจากกลุ่มผู้รวบรวมรายใหญ่ ผู้รวบรวมรายย่อย และรับซื้อจากเกษตรกรเฉลี่ย 300-400 รายต่อวัน โดยการซื้อ-ขายผลิตผลทางเกษตรด้วยเงินสด ซึ่งผู้ประกอบการลานเกษตรต้องสำรองเงินสดวันละ 10-12 ล้านบาท

ปัจจุบันธนาคารมีลูกค้ากลุ่มธุรกิจพืชไร่ ประมาณ 4,000 ราย มียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 19,000 ล้านบาท และได้เปิดทดลองโครงการโอนเงินชำระค่าผลผลิตเพื่อเกษตรกรให้แก่ลูกค้าลานเกษตรที่รับซื้อผลผลิตลานมันในจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดเลย ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งธนาคารตั้งเป้าจะให้ความรู้และเปลี่ยนพฤติกรรมของธุรกิจอื่นๆ ที่ซื้อ-ขายเงินสดมาซื้อผ่านระบบให้มากขึ้น

ขอบคุณที่มา www.kasikornbank.com

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *