แม็คกรุ๊ป[MC] แกร่ง ปี 58 โตทั้งรายได้และกำไร

บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“MC”) ประกาศยอดขายสำหรับปี 2558 ที่3,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% และสำหรับไตรมาส 4 ที่ 1,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิสำหรับปีอยู่ที่ 732ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% และสำหรับไตรมาสที่ 250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล จำนวน 0.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวน 320 ล้านบาท

นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า “ปี 2558 นี้ นับเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับบริษัทด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค อย่างไรก็ดีบริษัทสามารถทำยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ปิดที่3,895 ล้านบาท เติบโต 12% จากปีก่อนหน้า เป็นไปตามกรอบเป้าหมายอัตราการเติบโตของยอดขายใหม่ที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 10-15 สาเหตุหลักมาจากการขยายช่องทางการขายอย่างต่อเนื่อง และจากการเพิ่มยอดขายต่อร้านเดิม ด้วยการพัฒนาและการนำเสนอสินค้ากลุ่มใหม่เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค เช่น กระเป๋าเดินทาง เสื้อผ้าท่อนบนภายใต้แบรนด์ใหม่ McT ตลอดจนการจัดรายการส่งเสริมการขายที่คุ้มค่าเพื่อกระตุ้นการซื้อของผู้บริโภค”

“โดยไตรมาส 4 เป็นไตรมาสที่บริษัทมียอดขายรายไตรมาสสูงที่สุด ปิดที่ 1,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อน ด้วยปัจจัยทางฤดูกาล กิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัท และมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่รัฐบาลประกาศใช้ในช่วงปลายปี 2558 ส่งผลให้บริษัทสามารถพลิกฟื้นอัตราการเติบโตยอดขายต่อร้านเดิมจากที่ติดลบในช่วง 9 เดือนแรกของปีกลับมาเป็นบวกถึงร้อยละ 19 ในไตรมาสที่ 4 จึงทำให้อัตราการเติบโตยอดขายต่อร้านเดิมของบริษัททั้งปี 2558 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 4”

“โดย ณ สิ้นปี 2558 บริษัทมีจุดจำหน่ายสินค้าทั้งสิ้น 866 แห่ง เพิ่มขึ้น 47 แห่งจากปีก่อน โดยนอกจากจะเน้นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกของตนเองมากขึ้นแล้ว บริษัทยังได้เปิดช่องทางจำหน่ายใหม่ในประเทศในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. และได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศเพิ่มที่ประเทศกัมพูชาอีกด้วย”

ดร.นฤมล สิงหเสนี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ เปิดเผยว่า “บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นปี 2558 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จากการควบคุมต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสัดส่วนรายได้การขายจากร้านค้าปลีกของบริษัทที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีอัตรากำไรสุทธิของบริษัทลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 19 (จากร้อยละ 20) เนื่องจากมีการขยายจุดขายเพิ่มขึ้นและการมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพื่อรองรับแผนการเติบโตในอนาคต โดยในไตรมาส 4 บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 19 และเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 14 ในไตรมาส 3 เป็นผลจากสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายที่ลดลง ทั้งนี้สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จำนวน 0.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวน 320 ล้านบาท”

นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้กล่าวถึงแผนธุรกิจว่า “แม้ว่าการดำเนินธุรกิจในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเติบโตในอัตราที่น้อยกว่าบริษัทคาดไว้ บริษัทยังมองเห็นโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาว โดยในปี 2559 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายที่ร้อยละ 15 มุ่งเน้นการขยายสาขาผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายของตนเอง โดยมีแผนจะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศในปี 2559 อีก 55-60 แห่ง และในต่างประเทศอีก 4 แห่งในกลุ่มประเทศ CLMV โดยบริษัทจะปรับปรุงการกระจายสินค้าและการเลือกสินค้าให้เหมาะสมกับตลาดในแต่ละพื้นที่มากขึ้น โดยบริษัทได้เริ่มใช้งานระบบ SAP ซึ่งเป็นระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร (ERP) ตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 เพื่อที่จะให้การบริหารจัดการในส่วนนี้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้บริษัทจะยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีจุดเด่นและรูปแบบที่แตกต่างกันเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่หลากหลาย ตลอดจนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่คุ้มค่าแก่ลูกค้า และเริ่มทำการตลาดออนไลน์มากขึ้นผ่านเว็ปไซต์ www.mcshop.com ซึ่งได้เริ่มเปิดตัวไปในเดือนธันวาคม2558”

บริษัทได้กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD (Ex-dividend date) ในวันที่ 28 เมษายน 2559 และ กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 จากนั้นบริษัทจะทำการปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 4 พฤษภาคม 2559 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2559

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *