เตาอบไมโครเวฟ กับเรื่องอาหาร ภาชนะอะไรเวฟได้บ้าง[ปลอดภัยไว้ก่อน]

เตาอบไมโครเวฟกับสารอาหาร  มีหลายๆคนเข้าใจยังไม่ถูกต้องทั้งหมด ว่าอันตราย จะเสียคุณค่าอาหาร การปรุงอาหารไม่ว่าจะเป็นการใช้เตาอบธรรมดา กระทะ เตาย่าง หรือเตาอบไมโครเวฟมีผลต่อสารอาหารทั้งนั้น จริงๆแล้วปัจจัยที่ทำลายสารอาหารมากที่สุดคือการใช้เวลาในการปรุงอาหารนานเกินไป ซึ่งการปรุงอาหารด้วยเตาไมโครเวฟเป็นวิธีการปรุงอาหารที่ส่งผลต่อสารอาหารน้อยที่สุดเพราะเป็นการปรุงอาหารที่ใช้เวลาน้อยที่สุด

คลื่นไมโครเวฟ คือ อะไร ทำงานอย่างไร

คลื่นไมโครเวฟจะไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบสารประกอบเคมีในอาหารของคุณ ซึ่งนั่นหมายความว่าสารพิษหรือสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งแทบจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ระหว่างการปรุงอาหารเช่นกัน  คลื่นไมโครเวฟเป็นพลังงานคลื่นความถี่วิทยุชนิดหนึ่ง โดยคลื่นไมโครเวฟจะวิ่งผ่านเข้าไปในอาหารและเข้าไปทำให้โมเลกุลน้ำในอาหารสั่นไปมา การเสียดสีระหว่างโมเลกุลทำให้อุณหภูมิของอาหารสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

พลังงานคลื่นไมโครเวฟมีผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่ ?

แม้ว่าเตาอบไมโครเวฟจะปล่อยคลื่นไมโครเวฟเล็ดลอดออกมาบ้างระหว่างการใช้งาน คลื่นไมโครเวฟที่เล็ดลอดออกมาไม่ก่อให้เกิดผลเสียใดๆ ต่อสุขภาพหากเตาอบไมโครเวฟได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี

ภาชนะที่ใช้สำหรับบรรจุอาหารเพื่อใช้สำหรับไมโครเวฟถือเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากเลือกภาชนะที่ใช้ไม่ถูกต้องแล้ว อาจจะส่งผลให้เกิดโทษและอันตรายได้ เนื่องจากสารโพลิเมอร์หรือสารเคมีที่ถูกหลอมละลายจากคลื่นไมโครเวฟ

ภาชนะที่ใช้กับเตาไมโครเวฟได้

แก้ว หรือแก้วผสมเซรามิก ถือเป็นภาชนะที่ปลอดภัยมากที่สุด เนื่องจาก แก้วเป็นสารอนินทรีย์ที่มีองค์ประกอบหลักเป็นทราย องค์ประกอบของแก้วจะไม่ดูดซึมน้ำ สารอาหาร และคลื่นไมโครเวฟ

ภาชนะทำจากกระดาษ หรือ กระดาษที่เคลือบแวกซ์หรือเคลือบพลาสติก

พลาสติก แต่ พลาสติกนั้นก็มีหลายประเภท ทั้งแบบทนความร้อนได้ และไม่สามารถถูกความร้อนได้เลยก็มี พลาสติกสำหรับใส่ไมโครเวฟที่เหมาะสมควรจะทำมาจากพลาสติกประเภท Polyethylene terephthalate (PET) หรือ Polypropylene (PP)
ซึ่งมีคุณสมบัติคือ เบา มีความเหนียว ทนทาน และที่สำคัญต้องมีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าใช้สำหรับอุ่นในไมโครเวฟได้

เซรามิก ก็เป็นภาชนะที่สามารถใช้กับเตาไมโครเวฟได้อย่างปลอดภัย แต่ถ้าเซรามิกของคุณมีลายสีทองหรือสีเงินของโลหะ ไม่ควรนำมาใช้กับไมโครเวฟอย่างยิ่ง เพราะเมื่อโดนความร้อน จะสะท้อนคลื่นไมโครเวฟกลับไป ทำให้เครื่องมีอายุการใช้งานที่สั้นลง

ระวังสารปนเปื้อน วัสดุบางอย่างอันตรายอาจมีสารปนเปื้อนในอาหารเมื่อนำเข้าเวฟ เช่น กล่องโฟม แผ่นโลหะคลุมอาหาร ไม่เหมาะสมสำหรับการอุ่นอาหารด้วยเตาไมโครเวฟ วัสดุต้องห้ามเหล่านี้อาจะทำให้เกิดสารพิษในอาหาร หรือทำให้อาหารไหม้ได้ง่าย

เทคนิควิธีการใช้เตาไมโครเวฟอย่างปลอดภัย

  • เลาะกระดูกออกจากชิ้นเนื้อขนาดใหญ่ออกเสียก่อน
  • ตัดอาหารที่จะใช้ปรุงต่อไปให้เป็นชิ้นเล็กๆ
  • จัดเรียงอาหารให้ในถาดอบให้เป็นระเบียบ หากจำเป็นต้องอุ่นอาหารชิ้นใหญ่ๆ ควรจะลดความแรงของเตาอบไมโครเวฟครึ่งหนึ่ง และขยายเวลาในการปรุงอาหาร วิธีนี้จะช่วยให้ความร้อนกระจายได้ทั่วถึง หากจะอุ่นอาหารที่มีลักษณะแห้ง ให้เติมของเหลว เช่น น้ำเปล่า น้ำซุป หรือน้ำเกรวี เพื่อช่วยในการกระจายความร้อน
  • ควรหยุดการอุ่นอาหารเพื่อคนอาหารหรือกลับข้างถาดหรือบรรจุภัณฑ์เมื่อใช้เวลาในการอุ่นอาหารไปแล้วครึ่งหนึ่ง
  • คลุมอาหารด้วยฝาครอบหรือแผ่นพลาสติกคลุมอาหารที่สามารถใช้กับเตาอบไมโครเวฟได้เพื่อกักเก็บไอน้ำ
  • ควรปล่อยให้อาหารระอุหลังการอุ่นอาหารตามคำแนะนำของอาหารแต่ละชนิดเพื่อมั่นใจได้ว่าอาหารได้รับความร้อนอย่างทั่วถึง
  • ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิสำหรับอาหารเพื่อตรวจสอบว่าอาหารได้รับความร้อนในระดับที่เหมาะสมตามมาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่ โดยทดสอบอุณหภูมิของอาหารจากหลายๆ จุด โดยเฉพาะบริเวณชิ้นเนื้อที่หนา และควรหลีกเลี่ยงการวัดอุณหภูมิใกล้ๆ บริเวณที่มีกระดูก หรือไขมัน
  • ไม่ควรอุ่นอาหารที่มีการยัดไส้ เช่น ไก่อบยัดใส้ โดยไม่มีการหั่นแบ่งเป็นชิ้นย่อยๆ
  • อาหารแช่แข็งที่ถูกละลายน้ำแข็งด้วยเตาอบไมโครเวฟควรนำมาปรุงอาหารต่อทันที การป้องกันการไหม้ของอาหาร เพราะเตาอบไมโครเวฟเองไม่มีความร้อนในตัวเอง บางครั้งจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกะประมาณว่าเราควรจะอุ่นอาหารนานแค่ไหนและร้อนแค่ไหนก่อนที่จะนำเอาออกมาจากเตาอบไมโครเวฟ สิ่งที่คุณต้องระวังมีดังนี้
  • ของเหลวร้อนยวดยิ่ง (Superheated liquids) ของเหลวบางชนิดเมื่ออยู่ในอุณหภูมิจุดเดือดหรือเหนือกว่าจุดเดือดก็ไม่แสดงสัญญาณเตือนอันตรายใดๆ เช่นฟองน้ำเดือด แต่ของเหลวชนิดนี้จะเดือดและเหือดระเหยได้ทันที และสามารถทำลวกผิวหนังได้อย่างรุนแรง การถ่ายเทความร้อนจากอาหารสู่บรรจุภัณฑ์ ซึ่งทำให้บรรจุภัณฑ์ที่คุณใช้ในการอุ่นอาหารมีความร้อนสูงมากได้
  • ความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของบรรจุภัฑณ์และอาหารภายใน กรณีนี้เกิดขึ้นได้โดยเฉพาะกับขวดนมเด็ก โดยเมื่อสัมผัสบรรจุภัณฑ์ภายนอกจะรู้สึกเย็น ในขณะที่อุณหภูมิอาหารภายในร้อนมาก ดังนั้นควรเช็คอุณหภูมิของอาหารก่อนบริโภคทุกครั้ง เมื่อคุณเลือกซื้อเตาอบไมโครเวฟ ควรอ่านและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตในการใช้งานและการเก็บรักษา ทุกๆ ครั้งที่คุณใช้เตาอบไมโครเวฟ
  • ใช้อุปกรณ์กันความร้อนในการหยิบจับบรรจุภัณฑ์ออกจากเตาไมโครเวฟ
  • ทำความสะอาดเตาอบไมโครเวฟทุกครั้งหลังจากการใช้

เตาไมโครเวฟ เป็นเครื่องมือทำอาหารที่จำเป็นไปแล้วสำหรับคนในปัจจุบัน เชื่อแน่ว่าในอนาคตคงจะมีกันทุกบ้าน การรู้ถึงการทำงาน ประโยชน์และอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการใช้งาน และจะใช้งานไมโครเวฟอย่างไรให้ถูกวิธี จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนที่ใช้ต้องรู้ เพื่อชีวิตปลอดภัย

ขอบคุณ อ้างอิงจาก most.go.th (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)

เรียบเรียงโดย BangkokToday.net

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *