จากเหตุการณ์ทางการเมืองทำให้ โครงการต่างๆต้องชะงักลงด้วยนั้นล่าสุดมีข่าวจากเว็บไซต์ข่าวชั้นนำอย่างประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ซึ่งมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ของวันที่ 13 มกราคม 57 บางกอกทูเดย์เราเห็นว่าน่าสนใจมากเลยนำมาฝากให้ชมกัน หัวข้อข่าว ไม่รอชี้ชะตา2ล้านล.ลุยผุดโปรเจ็กต์ คมนาคมตั้งแท่นชงรัฐบาลใหม่ครบ”บก-ราง-น้ำ” ไม่รอคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ “คมนาคม” โยกโครงการพร้อมประมูลจาก 2 ล้านล้าน ชงรัฐบาลใหม่เดินหน้าต่อ ทั้งถนน 4 เลน บูรณะทางสายหลัก สะพานข้ามทางรถไฟ ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ รถไฟทางคู่ 5 สายทาง รถไฟฟ้า 2 สาย 2 สี “ชมพู-ส้ม” มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ไฮสปีดเทรน 4 สายเฟสแรก
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้เตรียมความพร้อมที่จะเดินหน้าโครงการก่อสร้างในแผนลงทุนภายใต้กรอบวงเงิน 2 ล้านล้านบาท โดยจะดึงโครงการที่มีความพร้อมเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ เพื่อเปิดประมูลก่อสร้างต่อไป จะไม่รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) ที่กำลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. … ว่าขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่
“กระทรวงก็เดินหน้าโครงการไปตามปกติ เพราะศาลดูเรื่องข้อกฎหมายเป็นหลัก ไม่ได้หมายความว่าโครงการจะหยุดชะงัก ตอนนี้โครงการจะไปต่อได้หรือไม่อยู่ที่ว่าจะมีรัฐบาลมาอนุมัติโครงการและหาแหล่งเงินมาดำเนินการ แต่ถ้าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทผ่านการพิจารณาก็นำเงินกู้ส่วนนี้มาดำเนินการต่อได้ ซึ่งประเมินว่าในปีนี้จะใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 8 หมื่นล้านบาท”
นายจุฬากล่าวต่อว่า สำหรับโครงการที่พร้อมส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่ไม่ต้องทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) สามารถเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติได้ทันที ใช้ทั้งเงินกู้และงบประมาณปี 2558 อาทิ โครงการถนนของกรมทางหลวง (ทล.) กับกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เช่น ขยายถนน 4 ช่องจราจร บูรณะทาง สะพานข้ามทางรถไฟ เป็นต้น
นอกจากนี้มีโครงการรถไฟทางคู่ 5 สายทางที่รอการอนุมัติอีไอเอ วงเงินลงทุน 118,034 ล้านบาท อาทิ สายลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร วงเงิน 24,842 ล้านบาท สายนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน 165 กิโลเมตร 20,038 ล้านบาท ฯลฯ
โครงการรถไฟฟ้า 2 สายทาง มีสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) กับสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) โครงการมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา 196 กิโลเมตร เงินลงทุน 84,600 ล้านบาท เนื่องจากออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนอีก 2 สาย คือ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี และสายพัทยา-มาบตาพุด ยังต้องรอออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินก่อน จึงจะดำเนินการขออนุมัติโครงการได้
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง 4 สายทาง วงเงินลงทุน 783,229 ล้านบาทนั้น นายจุฬากล่าวว่า จะเร่งศึกษาและทำอีไอเอในเฟสแรกให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ได้แก่ 1.สายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา 2.สายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา คาดว่าปลายเดือนมกราคมนี้จะยื่นขออีไอเอได้
3.สายกรุงเทพฯ-หัวหิน เนื่องจากปรับตำแหน่งสถานีใหม่จำเป็นต้องรอจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่อีกครั้ง คาดว่าภายในเดือนมีนาคมนี้จะยื่นได้ และ 4.สายกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กำลังศึกษารายละเอียดโครงการ
“ไฮสปีดเทรนจะเร่งอีไอเอให้จบปีนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมเหมือนกันว่าจะช้าหรือเร็ว ยังตอบไม่ได้เพราะเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ในอนาคตเมื่ออีไอเอผ่านก็เสนอ ครม.อนุมัติโครงการต่อไป คาดว่าโครงการนำร่องทำได้ก่อน คือ สายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ในความเห็นของ สนข.น่าจะผลักดันโครงการนี้ต่อไป โดยใช้เงินกู้เหมือนรถไฟฟ้า แต่อยู่ที่นโยบายของรัฐบาลใหม่ด้วย” นายจุฬากล่าว
ขอบคุณที่มาของข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจออนไลน์