ซื้อขายสินค้าออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ส ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นที่ประเทศไทยแล้วสินค้าที่มีการซื้อออนไลน์มากจะเป็นหมวดแฟชั่น ความงาม อาหารเสริม เพราะสามารถส่งง่ายน้ำหนักเบาและต้นทุนในการเข้าร่วมทำธุรกิจค่อนข้างต่ำ แต่ถ้าเรามองอีกมุมหนึ่งของทางประเทศที่เจริญมากๆอย่างประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรปอาจจะต้องกลับมาคิดทบทวนอีกครั้งว่าการขายสินค้าออนไลน์ในประเทศไทยเราจะโตได้อีกมากน้อยขนาดไหนเพราะว่าที่ประเทศสหรัฐอเมริกาสินค้าที่มีการขายออนไลน์มากที่สุดกลับเป็นกลุ่ม
เรามาดูสัดส่วนการซื้อขายสินค้าออนไลน์
ขอบคุณภาพ ที่มาจาก เว็บข่าวกรุงเทพธุรกิจ bangkokbiznews.com
สินค้าที่มียอดซื้อขายออนไลน์มากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือ คอมพิวเตอร์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า คิดเป็นสัดส่วน 19% ของยอดการซื้อขายทั้งหมด อันดับ 2 ที่มีการซื้อขายมากที่สุดอีกกลุ่มคือ หนังสือ นิตยสาร เพลง และวีดิโอ ตามมาเป็นลำดับ 2 ในสัดส่วน 14%
จากรายงานดังกล่าวเราจะเห็นว่าสินค้าที่มีการขายออนไลน์น้อยสุดจะเป็นกลุ่มสขภาพ ความงาม รวมถึงยา ซึ่งถ้ามองในตลาดออนไลน์บ้านเราแล้วกลุ่มที่ขายเยอะสุดจะเป็นกลุ่มความงาม แฟชั่น เครื่องสำอาง อาหารเสริม จากข้อมูลนี้ทำให้เราได้มองธุรกิจออนไลน์ในมุมกว้างมากขึ้นว่า ตลาดออนไลน์ในประเทศไทยอนาคตยังจะเติบโตได้อีกมาก ดังในที่ประเทศเจริญแล้วเขาเป็น เพราะว่ากลุ่มตลาดสินค้าประเภท คอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิคส์ หรือแม้กระทั่ง สินค้าหนักๆอย่างของใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ต้องใช้เงินทุนในการลงทุนสูงกว่า รวมทั้งการจัดส่งต้องมีความพร้อมด้วยจึงทำให้ในไทยกลุ่มนี้เลยยังมีผู้ประกอบการออนไลน์น้อยอยู่ก็เป็นได้
ส่วนสำหรับใครที่กำลังมองหาผู้ให้บริการด้านร้านค้าออนไลน์ หรือ อีคอมเมิร์ส ในประเทศไทยมีหลายเจ้าที่มีระบบดี เช่นเจ้าตลาดมานานที่ทำร้านค้าออนไลน์ให้บริการอยู่คือ คือ tarad.com ที่สามารถเริ่มธุรกิจได้รวดเร็วพร้อมระบบชำระเงินที่พร้อม ฐานข้อมูลที่ใหญ่มากทำให้ติดการค้นหาได้ง่าย พร้อมทั้งลูกค้าสามารถแชร์กันได้ด้วยรหัสเดียวสามารถล็อกอินเข้าซื้อสินค้าได้ทุกร้านค้าออนไลน์ที่อยู่ในเว็บ และยังมี weloveshopping.com ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน นอกจากนี้แล้วยังมีเจ้าอื่นๆอีกมากถ้าสนใจธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ก็ลองศึกษาเพิ่มเติมครับ ส่วนค่าบริการอาจจะมีตั้งแต่หลักพันต้นๆถึงหลักหมื่นกันเลยทีเดียว ตามระบบที่รองรับ ข้อดีของเว็บสำเร็จรูปแบบสรุปคือ ทำง่าย ค่าใช้จ่ายต่ำ มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลให้ ติดอันดับค้นหาใน Google ง่าย และผู้ให้บริการจะพัฒนาระบบต่างๆของเขาเอง เราแค่บริหารร้านอย่างเดียว
ฝากข้อคิดสำหรับใครที่ต้องการเปิดร้านค้าออนไลน์ระหว่างสร้างเว็บของตัวเองกับเว็บสำเร็จรูป
ข้อดีสำหรับสร้างเว็บของตัวเอง คือเราสามารถบริหารจัดการฐานข้อมูลลูกค้าได้เอง แม้ว่าเราจะเป็นผู้ให้บริการ ลูกค้าเราก็ยังสามารถเก็บไว้นำมาต่อยอดธุรกิจของเราได้ ซึ่งต่างกับเว็บร้านค้าออนไลน์สำเร็จรูป อย่างเช่น ตลาดดอทคอม tarad.com หากว่าเราทำธุรกิจไป 4-5 ปีแล้วเราอยากจะพัฒนาเว็บเองเพราะเรามีเงินทุนมากขึ้น สร้างระบบที่ดีกว่าเดิมรองรับลูกค้า เราจะไม่สามารถดึงข้อมูลออกมาเก็บและอัพโหลดขึ้นในเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์อันใหม่ของเราได้เลย เช่น รายชื่อสมาชิก รายชื่ออีเมล์รับข่าวสารที่มีคนมาลงสมัครไว้ นี่เท่ากับว่าเราเสียลูกค้าที่เคยสร้างมา ซึ่งคือทรัพสินที่มีค่ามากที่สุดก็ว่าได้ แต่คนที่ได้คือบริษัทตลาดดอทคอม ซึ่งสร้างมูลค่าให้กับเขามากมายทีเดียว เพราะเขาสามารถนำไปต่อยอดอย่างอื่นได้หรือนำไปสร้างมูลค่าธุรกิจให้ตัวเองแบบฟรีๆเลย..คิดทบทวนให้ดีครับถ้าคุณแค่ขายไปไม่คิดอะไรมากก็ใช้เว็บสำเร็จรูปร้านค้าออนไลน์ แต่ถ้าคุณคิดจะสร้างธุรกิจจริงจัง บางกอกทูเดย์เราขอแนะนำว่า ควรลงทุนทำเว็บร้านค้าออนไลน์ของเราเองจะดีที่สุด แต่ทว่ามีร้านค้าออนไลน์ไหนที่เขามีระบบดึงฐานข้อมูลออกมาได้ ก็จะดีมากๆยังไงก่อนใช้บริการเว็บสำเร็จรูปร้านค้าออนไลน์ก็ต้องสอบถามผู้ให้บริการก่อนนะครับ
ธุรกิจออนไลน์เริ่มต้นง่ายใช้ทุนต่ำก็จริง เนื่องจากต้นทุนต่ำในการดำเนินธุรกิจทำให้มีคู่แข่งมาก ท้ายสุดแล้วถ้าสินค้าเหมือนๆกันคงสู้กันด้วยราคาซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีมากๆ ดังนั้นแล้วใครที่มีสินค้าที่มีเอกลักษณ์สูง มีความต้องการของตลาดอยู่แล้ว จะได้เปรียบที่สุด
ขอให้ทุกท่านโชคดีประสบความสำเร็จ บางกอกทูเดย์ ขอเป็นกำลังใจ