เทคนิคการเก็บเงิน ออมเงินแบบง่ายๆ [ร่วมด้วยช่วยแบ่งปัน]

เทคนิคการเก็บเงิน ออมเงินแบบง่ายๆ ให้เป็นไปแบบอัตโนมัติ สำหรับคนที่ต้องการสร้างความมั่งคั่ง เหมาะสำหรับหลายๆคนที่บางครั้งการเก็บเงินอาจจะเป็นปัญหาแม้จะตั้งใจเก็บไม่มาก เลยต้องอาศัยเทคนิคบางอย่างมาช่วยทำให้การเก็บเงินเป็นไปตามอัตโนมัติ

1.แบ่งสัดส่วนเงินมาเก็บจากรายได้หลักให้เป็นสัดส่วน เช่น 10% ,20%, 30% ,40% หรือจะมากน้อยตามความตั้งใจ หรือจะเริ่มจากน้อยๆก็ยังดี เพราะนั่นเท่ากับว่าคุณได้เริ่มต้นนิสัยและวินัยในการออมแล้ว เมื่อเก็บได้จำนวนน้อยๆก่อนอย่างสม่ำเสมอ คุณก็จะสามารถเพิ่มจำนวนเงินออมมากขึ้นได้เอง..ลองดูแล้วคุณจะอึ้งว่าทำได้อย่างไรและจะสนุกกับมันด้วย

2.สูตรเก็บเงินทอนจากค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน โยนมันเข้าไปในกระปุกออมสินของคุณไปเลย..เชื่อไหมว่าสักวันที่คุณเอามันมานั่งนับแล้วคุณจะอึ้งว่าทำไมมันมากกว่าที่เราคิดซะอีก แล้วก็นำมันเข้าบัญชีออมหรือนำไปลงทุนต่อซะ เพราะปล่อยไว้นานๆก็ไม่มีดอกเบี้ยรับ

3.แบ่งค่าใช้จ่ายในแต่ละวันออกมาให้ชัดเจน กำหนดเลยว่าจะใช้ประมาณเท่าไหร่ เหลือจากนั้นหรือใช้ไม่หมดคุณก็เก็บมันลงบัญชีหรือหยอดกระปุคออมสินของคุณเลย

4.วางแผนจ่ายหนี้ให้หมดหรือจ่ายบัตรเครดิตเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบร้อนแต่ทำไปตามแผนอย่างมีระบบ จัดการหนี้ตัวที่ง่ายหรือน้อยสุดก่อน เพื่อขวัญและกำลังใจ ในการบริหารจัดการหนี้ก้อนใหญ่ เชื่อไหมว่า คุณจะฮึกเหิมและมีความสุขไปกับการใช้หนี้ ยิ่งบัตรเครดิตคุณจ่ายเต็มจำนวนได้ ก็มีแต่กำไร จากแต้มบัตร และคุณก็หาทางเปลี่ยนมันเป็นเงินหรือสิ่งของซะ จะได้เข้ากระเป๋าออมของเราซะเลย

5. ลงทุนกับตัวเองตลอดเวลา เพราะเป็นสิ่งแรกที่เราทุกคนควรทำ เพราะถ้าคุณเคยศึกษาประวัติคนสำเร็จหรือคนรวยทั่วโลก สิ่งที่เขามีเหมือนกัน คือคนเล่านี้ เป็นนักเรียนรู้และพร้อมเรียนรู้ตลอดเวลาด้วย..

6.ฝากรวมเป็นบัญชีเดียวก่อนนำไปลงทุนต่อ เงินคืนที่ได้รับจากเรื่องหรืองานพิเศษต่างๆ เช่น เงินจากงานหลัก งานเสริม หรือที่อื่นๆ แล้วคุณจะพบว่ามันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณจะได้รับความรู้สึกดีๆและมีพลังความมุ่งมันในการเก็บออมมากขึ้น

7. นำเงินเก็บออกไปล่าเงิน หรือที่เรียกกันติดปากว่าการลงทุนนั่นแหละครับ ฟังดูแล้วมันเหมือนจะง่าย แต่ไม่ได้ง่ายจนทุกคนจะทำได้หมด ขอแนะนำว่าควรลงทุนในสิ่งที่ตัวเองมีความรู้ บางคนชอบและถนัดเรื่อง อสังหาฯ หุ้น ทอง ทองทุนต่างๆ หรือรูปแบบอื่นๆ ก็ลงทุนตามที่ต้องการและมีความรู้…เพราะทุกการลงทุนหรือแม้กระทั่งอยู่เฉยๆก็มีความเสี่ยงและความเสี่ยงจะลดลงตามความรู้ ประสบการณ์และความสามารถในเรื่องนั้นๆ

บทความโดย Nattawat Srimungkhun

Bangkoktoday.net