มาแรง! 3D printing เทรนด์เทคโนโลยี ปี 2014

3D Printing หรือเทคโนโลยีการพิมพ์วัตถุ 3 มิติ คือ กระบวนการพิมพ์ภาพให้มีรูปร่างเหมือนของจริงจากรูปแบบดิจิตอล โดยสร้างแบบจำลองวัตถุที่ต้องการในคอมพิวเตอร์ แล้วใช้ 3D Printer ปริ้นวัตถุออกมาไม่ว่าจะเป็นงานทางด้านการออกแบบ งานหล่อโลหะ งานทางด้านสถาปัตยกรรม งานทางด้านวิศวกรรม ฯลฯ เรียกได้ว่า 3D Printing เป็นเทคโนโลยีที่สามารถถอดความคิด ของเราให้เปลี่ยนเป็นความจริงออกมาเป็นชิ้นงานที่สามารถจับต้องได้ตามต้องการ ช่วยทลายข้อจำกัดหลายๆข้อของนักออกแบบรายย่อยไป สามารถเปลี่ยนระบบการผลิตของโลกจากระบอุตสาหกรรมมาเป็นระบบการผลิตที่สามารถผลิต หรือซ่อมแซมได้เองภายในครัวเรือน โดยศักยภาพเหล่านี้ได้สร้างความเป็นไปได้มหาศาลในธุรกิจสร้างสรรค์สำหรับอนาคต และมีแนวโน้มจะเป็นเทคโนโลยีที่มาแรงฉุดไม่อยู่อีกด้วย

มารู้จักกับ เทคโนโลยี การพิมพ์ 3 มิติ ที่เรียกว่า 3D printing กันหน่อย

มาแรง! 3D printing เทรนด์เทคโนโลยี ปี 2014
มาแรง! 3D printing เทรนด์เทคโนโลยี ปี 2014

การพิมพ์ภาพ 3D เป็นกระบวนการพิมพ์ภาพ 3D ให้มีรูปร่างเหมือนของจริงจากรูปแบบดิจิตอลการพิมพ์ภาพ 3D คือความสำเร็จในกระบวนการเติมแต่ง วัสดุที่วางของแต่ละชั้นจะมีรูปร่างที่แตกต่างกัน การพิมพ์ภาพ 3D เป็นการพิจารณาความแตกต่างจากเทคนิคของเครื่องจักรเดิม ซึ่งส่วนใหญ่การกำจัดวัสดุจะใช้วิธีการเช่น การตัดหรือการเจาะ(กระบวนการลด) เครื่องพิมพ์ที่ดำเนินการพิมพ์ภาพ 3D จะใช้กระบวนการเทคโนโลยีดิจิตอล ตั้งแต่ทศวรรษ 21 ที่มีการเจริญเติบโตในการขายเครื่องจักรเหล่านี้และราคาได้ปรับลดลงอย่างมาก เทคโนโลยีที่ใช้สำหรับสร้างต้นแบบและผลิตเครื่องประดับ,รองเท้า, ออกแบบอุตสาหกรรม, สถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง,อุตสาหกรรมยานยนต์,การบินและอวกาศ,ทันตกรรมและการแพทย์,การศึกษาระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์,วิศวกรรมโยธาและสาขาอื่นๆ

เครื่องพิมพ์ 3D(3D printer) เครื่องแรกถูกสร้างขึ้นในปี 1984 โดย 3D Systems Corp โดย Chuck Hull เป็นนักประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ 3D ที่ทันสมัยและเป็นผู้ริเริ่มเทคโนโลยีมาตรฐาน de facto ครั้งแรกที่บัญชีถูกตีพิมพ์จากการพิมพ์ในรูปแบบของแข็งถูกสร้างขึ้นในปี 1981 โดย Hideo Kodama จากสถาบันวิจัยนาโกยา เทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ครั้งแรกที่ตีพิมพ์บัญชีในระยะยาวการผลิตสารเติมแต่งหมายถึงเทคโนโลยีที่สร้างวัตถุผ่านกระบวนการแลกเปลี่ยนตามลำดับชั้น วัตถุที่มีการผลิตสารเติมแต่งสามารถใช้งานได้ที่ใดก็ได้ตลอดชีวิตของผลิตภัณฑ์ จากการผลิตก่อน เช่นการสร้างต้นแบบอย่างรวดเร็ว การผลิตเต็มรูปแบบ นอกเหนือการใช้งานของเครื่องมือและการปรับแต่งหลังการผลิต ในการผลิต และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องจักรกล วิธีการลดการสร้างโดยเป็นวิธีการดั้งเดิม การลดระยะการผลิต การพัฒนาในปีที่ผ่านมาจะแตกต่างจากเทคนิคการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าการผลิตได้รวมวิธีการที่เป็นพื้นฐานเพิ่มมาหลายศตวรรษ เช่น การรวมจาน,แผ่น, การตีขึ้นรูปและการกลึง การเชื่อม ไม่ได้รวมองค์ประกอบของเทคโนโลยีแบบจำลอง เครื่องจักร(การสร้างรูปแบบที่แน่นอนด้วยความแม่นยำสูง) จะได้รับการลดจากการเก็บและเปลี่ยนเป็นการโม่และบด (ขอบคุณที่มาจาก maximumdev.com)

3D printing เป็นกระแสที่มาแรงแซงทุกเทคโนโลยีในขณะนี้ และน่าตื่นเต้นสำหรับสัญญาณการเติบโตของตลาด 3D printer เมื่อบริษัท Gartner หนึ่งในบริษัทวิจัยชั้นนำ เชื่อว่ายอดจัดส่ง 3D printer ประเภท Home 3D Printer คือไม่ได้ถูกใช้ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่มีราคาต่ำกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 320,000 บาท มียอดจัดส่งประมาณ 56,507 เครื่องในปี 2013 เรียกว่าเพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบจากปี 2012 และ Gartner เชื่อว่ายอดจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นเป็น 98,065 เครื่องในปี 2014 และในปี 2015 น่าจะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัวเลยทีเดียว เห็นได้ชัดว่าระบบการพิมพ์ 3D ในปี 2014 นั้นไม่ได้มีอิทธิพลเพียงแต่แวดวงอุตสาหกรรม การออกแบบ หรือธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น แต่คาดว่าจะมีอิทธิพลต่อรายย่อยมากด้วยเช่นกัน ประจวบกับกลไกด้านราคาของ 3D printer ที่คาดว่าจะมีแน้วโน้มต่ำลง ในขณะที่รูปแบบการสร้างสรรค์งาน 3 มิติแบบ DIY หรือระบบการผลิตในครัวเรือนเริ่มมีพัฒนาการที่สูงขึ้น

ประโยชน์ของ เทคโนโลยี 3D Printing

สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลายวงการ โดยนำไปเป็นต้นแบบในการออกแบบ, ทดลอง, ซ่อมแซม หรือนำไปผลิตชิ้นงานตามที่ต้องการ สามารถใช้ เทคโนโลยี 3D Printing ทุกวงการ หรือแม้กระทั้งระดับ Home Use ตื่นตัวและให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี 3D Printing กันอย่างถ้วนหน้า อันจะเห็นได้จาก UPS Store ผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ที่ตัดสินใจแตกไลน์ธุรกิจมาเปิดให้บริการ 3D Printing หรือจะเป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 2 มิติอย่าง HP ต้องหันมาใส่ใจกับตลาดในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน กระทั่งในวงการตำรวจยังมีการนำ3D printer มาใช้สร้างแบบจำลองใบหน้าผู้ร้าย แทนการสเก็ตภาพแบบเดิมด้วย

police-3d-printing
3D printer มาใช้สร้างแบบจำลองใบหน้าผู้ร้าย

3D printer ไปใช้สนับสนุนเทคโนโลยีทางการแพทย์โมเดลสำหรับการวิเคราะห์ทางทันตกรรม การศัลยกรรมกระดูก รวมทั้งการสร้างอวัยวะเทียมสำหรับใช้ในอนาคต

3D printer นำไปใช้ในการผลิตและซ่อมแซมชิ้นส่วนของจรวดในขณะที่อยู่ในห้วงอวกาศโดยองค์การ NASA

Made-in-Space nasa

3D printer สามารถตอบสนองความคิดสร้างสรรค์ ของนักออกแบบ นักสร้างสรรค์ ผู้ประกอบการรายย่อย และระบบอุตสาหกรรมในครัวเรือนในการสร้างสรรค์ผลงานให้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้จริงง่ายมากขึ้นกว่าเดิม ลดเวลาการพัฒนาต้นแบบและการผลิต อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุน

เทคโนโลยี 3D printing ใช้ในวงการแฟชั่น

เทคโนโลยี 3D printing ใช้ในวงการแฟชั่น
เทคโนโลยี 3D printing ใช้ในวงการแฟชั่น

ชุดบิกินี่ ที่สร้างขึ้นจาก 3D Printer ซึ่งเลียนแบบชุดที่ใช้ผ้าในการผลิต โดยทุกส่วนประกอบของชุดจะไม่มีขั้นตอนของการเย็บแต่อย่างใด ทั้งนี้การออกแบบใช้อัลกอริธึมของสมการ “Circle Packing” (วงกลมชิ้นเล็กที่ต่อเชื่อมกัน) สร้างให้เป็นรูปทรงต่างๆ จึงสามารถไล่ระดับได้ตามความโค้งเว้าของรูปร่าง สะท้อนให้เห็นถึงความสลับซับซ้อนที่สวยงาม ทั้งยังมีความยืดหยุ่น และด้วยการพิมพ์จากไนลอน (Nylon) ทำให้มีคุณสมบัติเหนียว และกันน้ำได้

ในอนาคตอันใกล้นี้ 3D printer จะถูกใช้งานอย่างแพร่หลายเหมือนกับที่เครื่องพิมพ์ 2 มิติเป็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ศักภาพของเครื่องจะสามารถเปลี่ยนจินตนาการให้กลายเป็นจริงได้มากขึ้น จนอาจกล่าวได้ว่าเทคโนโลยี 3D Printing คือจุดเปลี่ยนของงานออกแบบ การผลิต และการตลาด สำหรับในส่วนนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการแล้ว เทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุนคือสิ่งสำคัญ ความสามารถของ3D printer อาจจะเป็นตัวที่เปลี่ยนโฉมหน้าและรูปแบบธุรกิจได้ ไม่ช้าก็เร็วเราคงได้ใช้เทคโนโลยี 3D Printing

ขอบคุณ applicadthai.com, maximumdev.com

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *