ก๊าซเหลือใช้แค่ 13 ปี! รัฐเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหิน

ก๊าซเหลือใช้แค่ 13 ปี! รัฐเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหิน โดยดูต้นแบบจากเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าถ่านหิน เฮกินัน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นไร้ปัญหา ข้อมูลของกระทรวงพลังงานที่ระบุถึงปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย ตอนนี้อาจเหลือให้ใช้ได้เพียงแค่ 13 ปี จากนี้เท่านั้น เรื่องนี้ กลายเป็นสิ่งน่ากังวลกับความมั่นคงทางด้านพลังงานของไทย

การผลิตไฟฟ้า ที่จำเป็นต้องพึ่งก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตถึง 70% เพราะมีต้นทุนต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงชนิดอื่นที่ใช้ในปัจจุบัน ถ้าอนาคตอันใกล้ ก๊าซธรรมชาติหมดไป เมื่อถึงเวลานั้น… หากจะแก้ไขโดยนำเข้าก๊าซฯ จากต่างประเทศ สุดท้ายปลายทางผู้ที่ได้รับผลกระทบคงหนีไม่พ้นชาวบ้านตาดำ ๆ ที่ต้องควักเงินจ่ายค่าไฟกันแพงขึ้น แต่ใช่ว่าปัญหาข้างต้นจะปิดประตูตายจนหมดทางแก้ไข เพราะอย่างไรแล้ว ยังมีเชื้อเพลิงอื่นเหลือเป็นพลังงานทางเลือก โดยเฉพาะถ่านหิน ที่ถือว่าเป็นเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนผลิตไฟฟ้าที่ต่ำกว่าก๊าซเข้าไปอีก แต่ยังผลักดันให้เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะถูกกระแสการต่อต้านอย่างรุนแรง ด้วยภาพความทรงจำในอดีตกับปัญหามลพิษที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย และสิ่งแวดล้อม

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน จึงเป็นหัวหน้าทีมนำคณะผู้บริหาร และสื่อมวลชน ไปเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าถ่านหิน “เฮกินัน” ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และติดอันดับ 1-50 ของโลก โดยตัวโรงงานตั้งอยู่ริมอ่าวมิกาวา เมืองเฮกินัน จังหวัดไอจิ บริหารงานโดยบริษัท ชูบุ อีเล็กทริก พาวเวอร์ จำกัด โรงไฟฟ้าเฮกินัน แห่งนี้… ถือเป็นต้นแบบการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินสะอาดผลิตไฟฟ้า มีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงถึง 4,100 เมกะวัตต์ ซึ่งแต่ละขั้นตอน ไล่ตั้งแต่การลำเลียงถ่านหินจากเรือขนส่ง ไปจนถึงการเผาเชื้อเพลิงเพื่อหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทุกขั้นตอนใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และชุมชนโดยรอบ เห็นได้จากพื้นที่รอบ ๆ โรงไฟฟ้า ชาวบ้านยังสามารถทำเกษตรกรรมได้ตามปกติ ที่สำคัญในพื้นที่นี้ยังเป็นแหล่งผลิตผลแครอทพันธุ์ดีขึ้นชื่อของญี่ปุ่นอีกด้วย

โรงไฟฟ้าถ่านหินเฮกินัน สร้างขึ้นเมื่อปี 2534 ใช้เวลาสร้างความเข้าใจกับชุมชนนับสิบปีก่อนสร้างโรงไฟฟ้าขึ้น โดยชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการสร้างพลังงานทางเลือกผลิตไฟฟ้า และสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน มีระบบจัดการที่เป็นมิตรต่อชุมชน ซึ่งโรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้เชื้อเพลิงหลักจากถ่านหินบิทูมินัสนำเข้าทางเรือขนส่งจากประเทศออสเตรเลีย 60% และอินโดนีเซีย 30% มีเครื่องผลิตไฟฟ้า 5 ตัว คือขนาด 700 เมกะวัตต์ 3 ตัว และขนาด 1,000 เมกะวัตต์ อีก 2 ตัว สามารถส่งไฟเลี้ยงประเทศญี่ปุ่นได้ครอบคลุมเกือบทั้งหมด  ส่วนการบริหารจัดการเริ่มต้นจากการขนถ่านหินจากเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ที่มาส่งบริเวณท่าเรือบริษัท ก็มีสายพานลำเลียงเข้ามาไว้บริเวณลานกองถ่านหินขนาดใหญ่ สามารถรองรับถ่านหินได้ 880,000 ตัน ก่อนลำเลียงด้วยสายพานอีกครั้งเพื่อเข้าสู่เตาเผาเชื้อเพลิงไปผลิตไฟฟ้า ซึ่งขั้นตอนการลำเลียงนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง เพราะเป็นขั้นตอนที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองคละคลุ้ง แต่บริษัทก็ใช้ท่อฉีดน้ำพรมน้ำใส่ถ่านหินตลอดเวลา ทำให้ไม่มีฝุ่นละอองกระจาย ขณะที่กำแพงรอบลานกองถ่านหินก็สร้างให้สูง 18 เมตร และเจาะเป็นรูพรุน เพื่อกรองฝุ่นละอองด้วย น้ำที่ถูกฉีดไปแล้วยังต้องนำไปผ่านขั้นตอนทำให้สะอาดอีกครั้งแล้วจึงนำไปพรมหมุนเวียนอีก ขณะที่ขั้นตอนการเผาถ่านหินก็มีการกำจัดมลพิษแบบหมดจด เพราะฝุ่นเกิดจากการบดถ่านหินให้เป็นผงเพื่อทำการเผาในเครื่องจะมีการดักจับฝุ่นละอองเอาไว้ ส่วนขี้เถ้าที่มีน้ำหนักจะตกลงในส่วนล่าง และถูกสายพานลำเลียงออกไป

สภาพแวดล้อมภายในโรงไฟฟ้าถ่านหิน เฮกินัน ในประเทศญี่ปุ่น ยังมีพื้นที่สีเขียวมากกว่า 25% และทางโรงไฟฟ้ายังเปิดให้ชาวบ้านเข้ามาตกปลาในโรงไฟฟ้า บริเวณลานกองถ่านหินที่มีพื้นที่ติดทะเลได้ฟรี 24 ชั่วโมง ซึ่งบริเวณนี้ถือเป็นแหล่งที่มีปลาชุกชุมอย่างมากอีกด้วย ขณะที่พื้นที่โดยรอบก็ยังปลูกพืช โดยเฉพาะผลแครอท และในการเยี่ยมชมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังนำผลแครอทที่ได้จากพื้นที่ข้างโรงงานมาโชว์ให้ดู ซึ่งมีที่ขนาดใหญ่ และสมบูรณ์มาก รวมทั้งยังแปรรูปเป็นน้ำแครอทรสชาติเยี่ยมให้ทดลองชิมกันด้วย

ปัจจุบัน ณ เวลานี้ ไทยมีแผนการใช้พลังงานทางเลือกอื่นเพื่อการผลิตไฟฟ้า ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2558-2579 หรือ แผนพีดีพี 2015 โดยขณะนี้ไทยเองใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้าสัดส่วนเพียง 18% และยังเป็นถ่านหินที่ให้พลังงานน้อย ส่วนอนาคต ตามแผนได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มพลังงานถ่านหินให้ได้ 25-30% และลดการใช้ก๊าซให้เหลือ 30% โดยยืนยันว่าการเพิ่มโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นจะทำเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ขอบคุณ dailynews.co.th

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *