อาชีพทำเงิน ปลูกแตงกวาพันธุ์ไฮโซ ลูกดก ทนโรค ทนสภาพอากาศ

อาชีพทำเงิน ปลูกแตงกวาพันธุ์ไฮโซ ลูกดก ทนโรค ทนสภาพอากาศ

แตงกวา ถือเป็นชนิดผักที่มีความนิยมในการบริโภคเป็นอันดับต้นๆของประเทศ แทบจะพูดได้ว่าทุกร้านอาหารต้องมีแตงกวาไว้ทาน มีแตงกวาเป็นผักไว้ทานกับอาหาร จึงน่าสนใจอย่างมากถ้าใครสนใจอยากจะปลูกแตงกวาขายเป็นอาชีพเสริม หารายได้เข้าบ้าน หรือถ้ามีพื้นที่มากอาจจะทำเป็นอาชีพหลักเลยก็ยังได้ สำคัญที่พันธุ์แตงกวา บางกอกทูเดย์ก็อยากจะแนะนำ แตงกวาพันธุ์ไฮโซ ลูกดก ทนทาน

บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจเมล็ดพันธุ์อันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดตัว แตงกวาไฮโซ สายพันธุ์ใหม่ลูกดก ทนโรค ทนร้อน

แตงกวาพันธุ์ไฮโซ โดดเด่นกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ทั้งด้านแข็งแรงต้านทานโรคไวรัส ทนอากาศร้อนได้อย่างดีเยี่ยม และยังให้ผลผลิตที่คุ้มค่า เหมาะจะเป็นอีกทางเลือกของเกษตรกร เจียไต๋ได้มีการพัฒนาพันธุ์ให้เหมาะกับสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปัจจุบันที่อุณหภูมิของอากาศร้อนขึ้นทุกปี ทำให้ แตงกวาพันธุ์เดิมให้ผลผลิตต่ำลง มีโรคพืช และแมลงศัตรูพืชเพิ่มจำนวนมากขึ้น“แตงกวาพันธุ์ไฮโซ” จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้โดยเฉพาะ   

คุณ ณัฏฐนี เทพกาวงค์ นักปรับปรุงพันธุ์พืช บริษัท เจียไต๋ จำกัด เปิดเผยว่า เจียไต๋ใช้เวลาทดลองปรับปรุงแตงกวาพันธุ์ไฮโซมากว่า 3 ปี ทดลองปลูกในพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพราะเป็นพื้นที่ที่นิยมปลูกแตงกวาเป็นอย่างมาก ซึ่งพบว่าแตงกวาพันธุ์นี้แม้ว่าอากาศจะร้อนจัด ก็ยังสามารถให้ผลผลิตที่ดีกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ผลตรงเรียวสวย ไม่งอ และสีผลเขียวสวยงาม  ภายหลังจากที่ได้ให้เกษตรกรทดลองปลูกช่วงฤดูร้อน ในปีที่ผ่านมา พบว่าเกษตรกรบางรายสามารถขายผลผลิตได้ถึงกิโลกรัมละ 20 บาท(ราคาผลผลิตขึ้นอยู่กับกลไกของตลาด)  ถือเป็นราคาที่สูงมากสำหรับแตงกวาในช่วงหน้าแล้ง

เรามาดูตัวอย่างเกษตรกรที่ปลูกแตงกวาพันธุ์ไฮโซ ที่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ

เกษตรกรปลูกแตงกวาพันธุ์ไฮโซ

ลุงจาก ศิริอ่อน เกษตรกรผู้ปลูกแตงกวาพันธุ์ไฮโซของเจียไต๋ จากอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันมีสวนลำไยจำนวน 10 ไร่ แบ่งพื้นที่ประมาณ 1 ไร่เศษ เพื่อนำมาปรับปลูกแตงกวามากว่า 10 ปี โดยแบ่งแปลงปลูกเป็น 3 แปลง แล้วทยอยปลูกทีละแปลงเพื่อให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดทั้งปี โดยลักษณะแตงกวาที่แม่ค้าต้องการ คือมีผลยาวตรง ทรงสวย ไม่คอดงอ เนื้อแน่นหวานกรอบ โดยเฉพาะสีของแตงกวา ควรเป็นสีเขียวสด เพราะเน้นขายส่งแม่ค้าตลาดทางภาคใต้ ซึ่งใช้เวลาขนส่งนานกว่าจะถึงตลาดปลายทาง แตงกวาก็จะยังคงความเขียวสวยเสมอ ไม่เหมือนแตงกวาที่มีสีขาวที่เก็บไว้แค่คืนเดียวผลแตงก็เป็นสีเหลืองแล้ว ทำให้ดูเหมือนแตงเก่าค้างคืน แม่ค้าที่รับซื้อไม่ต้องการ เกษตรกรจึงจำเป็นต้องเลือกสายพันธุ์ตามที่แม่ค้าหรือตลาดต้องการ ซึ่งครอบครัวตนได้เลือกปลูกแตงกวาพันธุ์ไฮโซของเจียไต๋ ปัจจุบันปลูกเป็นเวลา 3 ปี เพราะแตงกวาพันธุ์นี้มีสีเขียวสวย สามารถเก็บไว้ได้นาน 3-4วัน ทำให้เป็นที่ต้องการของแม่ค้า และยังได้ราคาดีกว่าแตงกวาพันธุ์อื่นๆ อีกด้วย

การให้น้ำ เราจะให้น้ำเช้า-เย็นให้ชื้น แต่ไม่ให้แฉะ เพราะอาจทำให้รากเน่าได้ โดยให้น้ำผ่านระบบสปริงเกอร์ เพื่อจำลองสภาพอากาศให้เหมือนฝนตก ทำให้แมลงไม่กล้าเข้ามารบกวน นอกจากสายพันธุ์นี้จะทนทานต่อโรคไวรัสอยู่แล้ว การให้น้ำแบบนี้ยังช่วยป้องกันโรคไวรัสได้อีกทางหนึ่งเหมือนกัน แม้ว่าอาจจะทำให้เกิดปัญหาโรคราน้ำค้างบ้าง แต่โรคนี้ก็ยังมียาป้องกันได้ โดยใช้ใช้เทนเอ็ม 30กรัมผสมโนมิลดิว20กรัมต่อน้ำ20ลิตรพ่นในช่วงมีราน้ำค้างแต่หากเมื่อไหร่ที่แตงกวาเป็นโรคไวรัสแล้ว จะไม่มียารักษาให้หายได้เลย ส่วนการฉีดสารเคมีต่างๆ นั้น แตงกวาสวนเราจะไม่เน้นใช้สารเคมีฉีดมากนัก แต่จะใช้บางช่วงเวลาที่มีแมลงมารบกวนเยอะๆ เท่านั้น

การเริ่มปลูกแตงกวา ลุงจากแนะนำว่าให้เริ่มเตรียมแปลง ขนาดกว้าง 1 เมตร ระยะห่างระหว่างแปลง 50 ซม. จากนั้นจะเจาะหลุมปลูก เพื่อให้มีระยะระหว่างต้น 50 ซ.ม. และระยะระหว่างแถว 60 ซ.ม. จากนั้นปักไม้เพื่อทำค้าง ตามระยะระหว่างต้น แล้วผูกไม้ค้างเข้าหากัน ทำเป็นลักษณะของกระโจม เชื่อมแกนกลางด้วยไม้ยาว วางตลอดทั้งแนว เพราะการทำลักษณะกระโจม จะให้จำนวนต้นที่มากกว่าการปลูกแบบเลื้อยกับดิน อีกทั้งผลผลิตก็ไม่เสียหายจากการเดินเหยียบย่ำและยังได้ผลผลิตที่มีน้ำหนักดีและจำนวนที่มากกว่า จากนั้นให้เริ่มหยอดเมล็ดแตงกวา หลุมละ 2 เมล็ด โดย 1 ไร่จะใช้เมล็ดพันธุ์แตงกวาไฮโซ ขนาด 50 กรัม จำนวน 3 กระป๋องเท่านั้น ส่วนระยะที่ต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ ลุงจากบอกว่า อยู่ในช่วงที่ต้นแตงยังเล็กประมาณ 2 อาทิตย์แรกหลังปลูก เพราะต้องคอยระวังแมลงมารบกวน

ยิ่งหากปลูกแตงกวาในฤดูแล้งต้องให้น้ำเพียงพอเพื่อป้องกันต้นยุบตาย ต่อมาเมื่อแตงกวาอายุได้ 7 วันควรให้ปุ๋ยเคมีสูตร 25-7-7 จำนวน 3 กิโลกรัมละลายน้ำ 200 ลิตร เดินรดบางๆ ไปตามต้นเพื่อเร่งการแตกแขนง จนเมื่อแตงกวาโตเริ่มออกผล จึงค่อยให้ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-16 อีกครั้ง  เมื่อแตงกวาอายุได้ประมาณ 32 วัน ก็เริ่มติดผลและเก็บผลผลิตได้ โดยสามารถเก็บได้ทุกวันต่อเนื่องกันไปจนประมาณ 20-25 วัน และถ้าดูแลรักษาดีๆ จะสามารถเก็บแตงกวาได้ 45 วันต่อรุ่นเลยทีเดียว สำหรับแตงกวาที่เก็บจะมี 3 เกรด คือ 1.แตงกวาเกรด A จะได้ราคาดีที่สุด มีขนาดยาวประมาณ 9-11 ซ.ม. ทรงกระบอกหัว-ท้ายเท่ากัน ไม่คอดงอ สีเขียวสวย 2.แตงกวาเกรด B ที่หลงหลุดรอดสายตาจนกลายเป็นแตงกวาขนาดใหญ่ แต่ราคาจะรองลงมา 3.แตงกวาเกรด C เป็นแตงกวาที่ลูกคอดงอ อาจเกิดจากการให้ปุ๋ยที่ไม่เพียงพอกับความต้องการของต้นแตง ซึ่งจะได้ราคาต่ำกว่าแตงเกรดAและเกรดB ซึ่งเมื่อส่งขายเข้าตลาดก็จะคัดแยกใส่ถุงตามเกรด โดยจะส่งแตงกวาขายที่ตลาดศรีเมืองราชบุรีเป็นหลัก มีเท่าไหร่แม่ค้าก็รับหมด สำหรับราคาแตงกวาไฮโซเกรด A ตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 20 บาท แต่ถ้าเป็นแตงกว่าพันธุ์อื่นราคาจะอยู่ที่ 18 บาท/กก. สามารถสร้างรายได้ต่อรุ่นโดยที่ยังไม่หักต้นทุน ประมาณ 1 แสนบาท

ต้นทุนการปลูกแตงกวาสำหรับผู้ที่ลงทุนใหม่ในครั้งแรกทั้งค่าอุปกรณ์ ค่าปุ๋ย ค่ายา เมล็ดพันธุ์ ประมาณ 3 หมื่นบาท เมื่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ครบแล้วการลงทุนในครั้งต่อๆ ไปจะเหลือแค่ประมาณ 1 หมื่นกว่าบาทต่อรอบการปลูกเท่านั้น โดยแตงกวาสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ใน 1 ปี จะสามารถปลูกได้ 3-4 รุ่น สร้างรายได้ต่อรุ่นยังไม่หักต้นทุน ประมาณ 1 แสนบาท เรียกได้ว่าเป็นแตงกวาเงินแสนเลยก็ว่าได้” ลุงจาก เล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

แตงกวาเป็นพืชที่น่าสนใจ ถ้าใครมีพื้นที่อยากจะลองปลูกแตงกวาพันธุ์ไฮโซ ปลูกพืชผักแบบผสมไว้กินเอง หรือปลูกขาย สามารถติดต่อหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ของเจียไต๋ทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-810-3031 ต่อ 1306

ขอบคุณ ประชาชาติธุรกิจออนไลน์, newswit.com

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *