
ตำลึง (ivy gourd) มีสรรพคุณ ทางยาที่สำคัญคือ ช่วยย่อย แก้คัน ตำลึงเป็นไม้เมืองร้อน ลักษณะต้นเป็นเถาเลื้อยพาดไปตามต้นไม้อื่นๆ ในบ้านเราพบได้ทั่วไป นิยมใช้ใบอ่อนกินเป็นผักสด หรือประกอบเป็นอาหาร เรียกว่าสามารถกินเป็นยาโดยที่ไม่ต้องทำกรรมวิธีเข้าตัวยาแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงด้วย สามารถใช้กินเพื่อบำรุงร่างกายและให้คุณค่าทางด้านสมุนไพรในเรื่องของการรักษาโรคเบาหวาน
ผักตำลึง (ivy gourd) นอกจากนี้ยังเป็นยาช่วยย่อยขนานเอกขนานหนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องการย่อยคาร์โบไฮเดรต เพราะเป็นพืชที่ก่อให้เกิดอาการแพ้น้อยมาก จึงสามารถใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับเด็กแรกเกิดได้ อีกทั้งยังเป็นยาช่วยย่อย แก้อาการท้องอืดในเด็กได้ดีทีเดียววิธีง่ายๆ เพียงแค่ใช้ยอดตำลึงต้มกับข้าวผสมน้ำซุบ แล้วปั่นจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน จะผสมด้วยเนื้อแอปเปิลเล็กน้อยเพื่อเพิ่มวิตามินและสารอาหารด้วยก็ได้
หากถามว่าตำลึงมีดีในเรื่องสมุนไพรมากแค่ไหน คงไม่สามารถตอบได้เสียเลยทีเดียวว่ามีสรรพคุณเลิศหรู แต่สามารถใช้เป็นสมุนไพรบำรุงร่างกาย ช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรงได้อย่างดีทีเดียว คือไม่ได้กินเพื่อเป็นยา แต่กินเพื่อเป็นสมุนไพรบำรุงร่างกายนั่นเอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีสรรพคุณในเรื่องการรักษาเยียวยาเสียทีเดียว เพราะตำลึงก็มีดีอยู่ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน
ประโยชน์เด่นของตำลึง แกงจืดตำลึงใส่หมูสับ อาหารธรรมดาที่จัดอยู่ในเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารง่ายๆ ที่ให้ทั้งคุณค่าทางโภชนาการและคุณค่าทางด้านสมุนไพรอย่างครบครัน แต่โดยมากจะถูกลดคุณค่าลงไปมาก เพราะส่วนใหญ่มักจะใช้เพียงแค่ใบอ่อนของตำลึงเท่านั้น เพราะใบแก่ค่อนข้างขมและแข็ง อีกทั้งเถาตำลึงที่ถูกทิ้งไปอย่างไม่ใยดี กับเมนูง่ายๆที่มีเคล็ดลับปรับแต่งเพิ่มคุณค่าทางด้านสมุนไพรให้มากเป็นเท่าทวีคูณจากที่คุณเคยใช้แต่ใบอ่อนตำลึง ทีนี้เวลาจะต้มจืดตำลึง คุณควรจะใส่ใบแก่ลงไปด้วย แต่ใช่ว่าคุณจะต้องกินใบแก่และก้านแข็งๆของตำลึง เพราะเราจะเค้นเอาเฉพาะตัวยาออกมาเท่านั้น นั่นคือเมื่อคุณเด็ดเอาใบอ่อนตำลึงออกจนหมดแล้ว ให้คุณแยกเอาใบแก่ และก้านตำลึงไว้ต่างหาก ใบแก่บีบพอช้ำ ก้านตำลึงเด็ดเป็นท่อนขนาดนิ้วก้อยบุบพอแตก ลวกด้วยน้ำร้อนก่อน ๑ น้ำ แล้วห่อด้วยผ้าขาวบางเพื่อใส่ลงในหม้อต้มจืด เพียงเท่านี้จากเดิมที่คุณค่าทางด้านสมุนไพรที่เหลืออยู่ในใบอ่อนไม่มากนัก ก็จะมีคุณค่าทางด้านสมุนไพรเพิ่มมากขึ้นเพราะได้รับการทดแทนจากใบแก่และก้านตำลึง ใบแก่และก้านตำลึงจะมีเอนไซม์อะไมเลสอยู่มาก จึงเป็นยาช่วยย่อยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีสารที่ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในกระแสเลือดเหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวาน และคนที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน เช่นคนอ้วน หรือผู้สูงอายุ
ตำลึง สรรพคุณและวิธีใช้
๑.ตำลึงเป็นยาช่วยย่อย : ท่านที่ประสบปัญหาเรื่องโรคกระเพราะอาหารหรือเป็นแผลในกระเพาะอาหาร จำเป็นต้องหาสมุนไพรที่ช่วยแบ่งเบาภาระของกระเพาะ ใบตำลึงและเถาตำลึงมีเอนไซม์ อะไมเลสอยู่มาก จะช่วยย่อยอาหารจำพวกแป้งได้ดีทีเดียว วิธีง่ายๆ ใช้ใบแก่ตำลึงประมาณ ๑ กำมือ กับเถาตำลึงเด็ดเป็นท่อนขนาดนิ้วก้อย ๑ กำมือ โขลกรวมกันจนเป็นเนื้อเดียวแล้วใช้ผ้าขาวบางคั้นเอาแต่น้ำ ผสมน้ำอุ่น ๑ ถ้วย กาแฟ กินก่อนอาหารประมาณ ๕ –๑๐ นาทีเพื่อเตรียมน้ำย่อย หรือจะใช้ใบแก่ลวกพอสุก กินเป็นผักเคียงพร้อมอาหารในแต่ละมื้อเลยก็ได้
๒.ตำลึง แก้คัน แก้สัตว์มีพิษกัด หรือแมลงต่อย : ใช้ใบตำลึงแก่ ๑๐-๒๐ ใบตำลึงตำให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำ ทาบริเวณที่เป็นปัญหาบ่อยๆ จะช่วยให้อาการที่เป็นทุเลา
เมื่อทราบสรรพคุณของตำลึงและวิธีใช้ในทางยาแล้ว ก็น่าจะปลูกไว้เป็นผักสวนครัว ผักริมรั้ว เอาไว้ใช้ประโยชน์ กันบ้างนะครับ
บางกอกทูเดย์.เน็ต bangkoktoday.net
Leave a Reply