ธุรกิจขายตรง ทำแล้วรวย มีอิสระภาพทางการเงินและเวลาจริงหรือ?

ขายตรง[MLM]สมัยนี้คงน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักธุรกิจขายตรง หรือที่เรียกแบบเป็นทางการหน่อยว่าธุรกิจเครือข่าย ซึ่งในประเทศไทยมีบริษัทเปิดดำเนินการจำนวนมาก แต่ที่คนจะรู้จักกันกว้างขวางจริงๆกลับมีแค่ไม่กี่บริษัท แล้วคนทำขายตรงนี่จะรวยจริงๆเหมือนตอนที่พูดโน้มน้าวชักชวนหรือไม่ คนทำขายตรงจะรวยแค่คนเข้ามาก่อน หรือเปล่า แล้วจะมีอิสระทางการเงินและเวลาอย่างไร บางกอกทูเดย์จะนำประสบการณ์ตรงจากคนทำธุรกิจขายตรงมาเล่าสู่กันฟัง..

ก่อนอื่นบางกอกทูเดย์จะไม่ขอเอ่ยนามจริงนักธุรกิจขายตรงท่านนี้ เพราะอาจจะมีผลทั้งด้านบวกและด้านลบต่อธุรกิจที่เขาทำได้ แนวความคิดเห็นจากบทความนี้เราจะำเสนอเพื่อเป็นความรู้ ข้อคิด หลักพิจารณาต่างๆ สำหรับคนที่สนใจขายตรงหรือที่ทำอยู่ เผื่อว่าจะนำไปใช้ประโยชน์ได้..ถือว่าเรามาสร้างสรรค์แหล่งความรู้เรื่องธุรกิจขายตรงอีกหนึ่งบทความ..

คำถามที่เรายิงเข้าไปว่า..ธุรกิจขายตรงทำแล้วรวย…มีอิสระภาพทางการเงิน..และเวลาจริงหรือ..?

ตอบ…ธุรกิจขายตรงทำแล้วรวยจริงครับ แต่ต้องทำให้ถึงระดับที่ทำให้ถึงจุดๆหนึ่งหรือที่ภาษาทางธุรกิจเขาเรียกกันว่า..จุดคุ้มทุน ในทางธุรกิจขายอาจจะไม่ค่อยได้ยินคำๆนี้ แต่จะเข้าใจกันว่าเมื่อไหร่ที่สามารถสร้างนักธุรกิจที่มีความเป็นผู้นำ สามารถขยายธุรกิจ ขายสินค้า รักษาเครือข่ายทั้งลูกค้าและสมาชิกตัวแทนจำหน่ายได้..นั่นคือจะมีรายได้เข้ามาแบบที่เราไม่ต้องออกแรงทำ เพราะจะมีการขยายเครือข่ายธุรกิจออกไปเรื่อยๆ ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ มียอดขายสินค้าเกิดขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเราหยุดพักหรือหยุดทำ นี่จะเป็นจุดที่มีกำไรมาก เพราะต้นทุนเราลดลงเกือบไม่มีเลย กำไรล้วนๆ บางคนมีรายได้หลักล้านต่อเดือน…สรุปว่าทำขายตรงรวยจริงๆครับ

แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ..คุณจะสามารถทำได้แบบนี้หรือเปล่า มันเลยต้องขึ้นอยู่กับตัวคุณ ทีม และบริษัทที่ทำด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้ มีหลายบริษัททั้งอยู่มานานและเปิดใหม่ๆ ผมจะขอแสดงความคิดเห็นจากประสบการร์อันน้อยนิดกว่าสิบปีในธุรกิจนี้แชร์สู่กันฟัง

อย่างแรกเลย..ต้องคิดว่า เราชอบไหม? กับการทำการตลาดแบบนี้ จะรวยด้วยธุรกิจนี้ เพราะสมัยนี้ช่องทางรวยมีมากมาย ให้เลือก ทำอะไรๆก็สามารถรวยได้หากทำสำเร็จสู่ระดับผู้นำได้จริงไหมครับ นั่นก็แน่นอนว่าถ้าคุณชอบอะไร คุณจะทำมันแบบไม่เหน็ดไม่เหนือย ไม่อยากจะหยุด จะอยู่กับมันได้นาน คุณจะทุ่มเท ลองผิดลองถูก ทำเรื่องเดิมๆซ้ำๆได้…นั่นสุดท้ายแล้วก็สำเร็จ เพราะคนสำเร็จไม่เคยมีใครล้มเลิก..จนกว่าจะเลิกล้ม มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย ผมไม่ต้องยกตัวอย่างให้เสียเวลานะครับ

อย่างที่สอง..ต้องดูที่ตัวบริษัท ว่าขายอะไร จ่ายยังไง และใครเป็นผู้บริหาร สมัยนี้หาข้อมูลได้ไม่ยากครับ จะเลือกทำทั้งที เคยได้ยินไหมครับ บริษัทที่อยู่มานานเป็น หลายๆสิบปี ก็อ้างความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ ความทันสมัยของสินค้าและเทคโนโลยีต่างๆ แต่ผมไม่เห็นจะสักกี่บริษัทที่อ้างความทันสมัยของแผนการจ่ายผลตอบแทนเลย…แผนการจ่ายผลตอบแทนใช้มาเป็นหลายสิบปี ยังใช้อันเดิม สินค้าแพงขึ้นตามค่าครองชีพ ยอดขายมากขึ้น ทำให้สินค้าหลายรายการต้นทุนต่ำลงตามยอดขาย หรือต้นทุนต่ำลงตามเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยขึ้น..เอาให้เห็นภาพเลยเช่น สินค้าประเภทเครื่องสำอาง และอาหารเสริมบางประเภท แต่ทำไมยังจ่ายเท่าเดิม สรุปว่าอยู่เฉยๆ รายได้คุณก็ลดลงนะครับถ้าทำได้เท่าเดิม

อ้าวผมพูดแบบนี้ มีบางคนเถียงในใจมันจะลดได้อย่างไร ..แล้วคุณคิดว่าค่าของเงินลดลงเรื่อยๆไหมครับ หรือที่เขาเรียกกันแบบทางการว่า เงินเฟ้อ! ที่สำคัญคนขายอย่างเราๆน่าจะได้เยอะขึ้นด้วยซ้ำเพราะต้นทุนสินค้าถูกแม้จะขายราคาเดิม ถึงจะไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม ยกตัวอย่างง่ายๆว่าถ้าคุณขายเครื่องสำอาง เมื่อ 10 ปีก่อนอาจจะมีไม่กี่แบรนด์ แต่ตอนนี้คุณคิดว่ามีกี่ยี่ห้อ ทำไมหรือ? ก็เพราะต้นทุนที่ต่ำทำให้คนเข้าสู่ธุรกิจนี้ได้ง่ายสิครับ..ดังนั้นสรุปเลยนะครับ

1. ให้คุณเลือกบริษัทที่จ่ายผลตอบแทนให้คุณมากที่สุด..(แผนการตลาด)เมื่อเทียบกับต้นทุนสินค้า จะทราบได้อย่างไรนั้นว่าสินค้าคุณภาพประมาณนี้ต้นทุนเท่าไหร่ ผมไม่ขอเล่าวิธีการหาข้อมูลตรงนี้นะครับ

2. เลือกบริษัทที่จ่ายเงินปันผล หรือจะเรียกว่าโบนัส หรืออะไรก็แล้วแต่ละบริษัทจะเรียกกันครับ เลือกที่จ่ายเร็วที่สุด ตอนนี้มีหลายบริษัทจ่ายเป็นวัน จ่ายเป็นรอบ แล้วครับ เหมือนเราทำมาค้าขายเลย…แน่นอนว่าถ้าคุณขายสินค้าอยากได้เงินเร็วหรือเงินช้าละครับ เงินเข้ามือเราเร็ว มีเงินหมุนเร็ว กำไรเร็ว เราสามารถทำอย่างอื่นต่อได้ตั้งมากมาย ทันใจคนรุ่นใหม่ด้วย..แต่ผมไม่ได้ว่าแบบจ่ายรายเดือนไม่ดีนะครับ ดีเหมือนกันแต่แค่ช้ากว่าเท่านั้น (ทำบริษัทที่ผมทำจ่ายเป็นเดือนครับ..อยากจะแนะนำว่าแบบเร็วมันดียังไง แต่ผมไม่สามารถเปลี่ยนการจ่ายเงินให้ตัวแทนได้เพราะไม่ใช่เจ้าของบริษัทครับ )

3. สินค้าที่ขายต้องมีเอกลักษณ์ มีจุดขายชัดเจน ไม่อย่างนั้นแล้วคู่แข่งตามห้าง ตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ ตรึม! จะขายสู้เขายังไงไหวครับ เขาดั้มราคาใส่ จบเลย ผมเห็นตัวอย่างบริษัทที่ทำอาหารเสริมชนิดหนึ่งออกมา ทีแรกขายดีมาก ทำจนอาหารเสริมชนิดดังคนรู้จักทั่วประเทศ แต่ไม่ทันถึงสองปี มีวางขายในห้างเต็มเลยครับ เพราะวัตถุดิบในการผลิตหาได้ง่ายมากทั้งในบ้านเราและต่างประเทศ เลยเจอราคาต่ำกว่า คุณภาพไม่แตกต่าง ซื้อได้ทั่วไป แล้วเราจะขายสู้หรือครับ ข้อนี้ก็สำคัญครับ สำหรับคนที่ยังไม่เคยผ่านการขายมา อาจจะลืมจุดนี้ไปได้

4. ระบบสนับสนุนการขยายธุรกิจ รักษาฐานเครือข่ายลูกค้าและสมาชิกต้องมืออาชีพ เพราะขายตรงส่วนใหญ่ไม่ได้อาศัยหน้าร้านขาย ทุกอย่างอยู่ที่ตัวคน ดังนั้นแล้ว คุณภาพของนักขายจึงสำคัญ จะดีเก่งได้ ต้องมีทีมงานระบบการทำที่ดีคอยสนับสนุน รวมทั้งบริษัทขายตรงด้วย..ตรงนี้คุย และสัมผัสกับคนชวนเองได้เลยครับ

เล่ามาซะยาว สรุปว่าขายตรงทำแล้วรวยได้จริง..ครับ เหมาะสำหรับทุกคน แม้ทุนไม่มาก เพราะขายตรงให้โอกาสในการทำธุรกิจเท่าๆกัน เพราะต้นทุนที่ไม่สูง ทุกคนจึงมีโอกาสเข้าสู่ธุรกิจได้ง่าย นั่นคือ..ผมขอพูดว่า ความสวยงามของขายตรงนี้คือ ความเสมอภาคทางโอกาส จะสำเร็จร่ำรวย หรือจะทำเป็นอาชีพเสริม ก็แล้วแต่คนๆนั้น แผนมีทั้งแบบไบนารี่และแบบแผนสแตร์สเต็ป หรืออื่นๆ ก็ตัดสินใจเลือกด้วยตัวเองนะครับ

ฝากข้อคิด…

ไม่มีขายตรงหรืองานอะไรที่อยู่เฉยๆ สมัครทิ้งไว้แล้วรวย$$$ ครับถ้าขึ้นชื่อว่างาน มีคนมาชวนแบบนี้ คิดดีๆนะครับ

ไม่ควรตัดสินใจด่วนลงทุนหากยังไม่แน่ใจ…แยกให้ออกคำว่ารายได้…กับกำไร..ครับ มันต่างกันมาก…

ไม่ควรเลิกทำขายตรง..จนกว่าคุณจะได้ลองทำอย่างเต็มที่..หรือพิจารณาแล้วว่า ไม่ไม่คุ้มค่ากับตัวคุณ(แต่ละคนโอกาสไม่เท่ากัน คำว่าคุ้มค่าต่างกันครับ)…

สุดท้ายไม่ควรโทษใคร..หากไม่ได้ผลตามต้องการ..แต่เชื่อเถอะครับถ้าคุณได้ทำขายตรงมาระยะหนึ่งและเป็นผู้นำทีมจริงๆ…คุณจะเก่งขึ้นมากหลายๆด้าน..

โดย..นักธุรกิจขายตรงไม่ประสงค์ออกนาม

บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ www.bangkoktoday.net

จากบทความแสดงความคิดเห็นผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจขายตรงท่านนี้ น่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านหรือเอาไปเป็นข้อคิดที่อาจจะแตกต่างจากความคิดของคุณหรือใครหลายๆคน..หรือใครมีความคิดเห็นอย่างไรก็คอมเม้นได้เลยครับ ขอให้ไม่ผิดกฎหมายและทำลายน้ำใจกันก็พอ

แชร์ต่อให้เพื่อน

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*