ร้านขายมือถือ[ร้านตู้] ยังน่าลงทุนหรือไม่ อีกมุมมองเล่าสู่กันฟัง
เปิดร้านขายมือถือลงทุนเยอะไหม กำไรดีหรือเปล่า ยังเป็นธุรกิจที่น่าทำหรือไม่ในปัจจุบัน เพราะการแข่งขันที่สูงพร้อมทั้งการเปลี่ยนแปลงของทั้งราคาและเทคโนโลยีมือถืออยู่ตลอดเวลา เชื่อแน่ว่ามีหลายคนอยากจะเปิดร้านมือถือ แต่ข้อมูลในการทำธุรกิจคงยากที่จะมีใครมาเปิดเผยเล่าช่องทางทำมาหากินให้ใครฟัง เพราะกลัวว่าสักวันจะมาเป็นคู่แข่งได้ แต่บางกอกทูเดย์เราได้รวบรวมข้อมูลจากผู้ประกอบการจริงๆ ซึ่งขอสงวนชื่อไว้ ได้ข้อมูลเรื่องธุรกิจร้านมาถือมาน่าสนใจ มาเล่าสู่กันฟัง ว่าธุรกิจนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ลงทุนขายมือถือดีไหม? เริ่มแรกเล่ากันก่อนเลย..คำถามที่ทุกคนอยากจะรู้ว่าเปิดร้านขายมือถือ เอาแบบเริ่มต้นลงทุนต่ำๆแบบร้านตู้ หรือที่มักเรียกกันว่าลูกตู้ มักจะมีตู้มือวางเป็นล็อค ร้านใครร้านมัน ตามพื้นที่ในห้างที่จัดโซนไว้ ซึ่งร้านลูกตู้นี้ มีเงินทุนสัก 50,000-60,000 บาท ก็สามารถเริ่มธุรกิจได้ เพราะการลงทุนครั้งแรกเริ่มจะมีค่าเช่าพื้นที่ ค่าตู้โชว์มือถือ ใครทุนน้อยก็วางสัก 1 ตู้หรือเอาล็อกเล็กๆก่อนได้
สินค้าสต็อกล่ะ? ต้องลงเยอะไหม ตรงนี้ถ้าคุณเคยเดินตามร้านตู้ขายมือถือจะพบว่าจะมี มือถือเครื่องโชว์ แต่ละรุ่นมาวาง ไม่ค่อยมีตัวให้ลองเล่นเหมือนร้านใหญ่ๆ ถ้าคุณรู้จักกับเซลล์มือถือแต่ละยี่ห้อ บางยี่ห้อก็วางให้คุณฟรีๆเลย ดังนั้นแล้วต้นทุนตรงนี้จะต่ำมากหรือไม่มี ส่วนสินค้ามือถือที่สต็อกหากคุณทุนไม่มาก อาจจะติดต่อกับรายใหญ่ที่เขาขายส่งไว้ก่อน พอขายได้แล้วค่อยไปซื้อมาขายต่อ กำไรน้อยหน่อยแต่คุณก็ไม่ต้องเสี่ยงลงของ เฉลี่ยแล้วถ้าทำแบบไปวิ่งตัดของมาขายจากร้านขายส่งมือถือกำไรก็ประมาณ 3%-5% ก็นับว่าเยอะแล้ว เพราะมือถือกำไรขายปลีกน้อยมากๆ ส่วนรายได้ที่มีกำไรเยอะเช่น ขายแอคเซสเซอรี่มือถือ ติดฟิล์มกันรอย รับซ่อม ลงโปรแกรม อื่นๆ ถ้าคุณมีความสามารถ
BangkokToday.net ; ฝากข้อคิดทิ้งท้าย..ว่าจะเปิดร้านขายมือถือดีไหม?
ด้านความเสี่ยงของธุรกิจร้านขายมือถือ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีราคาสูง อีกทั้งเป็นสินค้าประเภทเทคโนโลยี จึงมีราคาที่ปรับเปลี่ยน มักจะปรับลงเร็วมาก ดังนั้นแล้วด้านราคาเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ขาดทุนได้ จึงควรทำประกันราคาจากมือถือแต่ละะยี่ห้อหรือร้านส่ง ปกติเขาจะประกันราคาประมาณ 30-90 วัน นอกจากนี้แล้วยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น การแข่งขัน ค่าเช่าที่จะเพิ่มขึ้นทุกๆปี อีกทั้งกำไรขายปลีกต่ำ และในอนาคตราคามือถือ มีโอกาสลดลงเรื่อยๆ ทำให้แม้ขายจำนวนเครื่องได้เท่าเดิมแต่ยอดขายก็อาจจะลดลงได้ และยังมีร้านมือถือใหญ่ๆ ที่ขยายสาขามากขึ้นทุกๆปี เช่น เจมาร์ท ร้าน TG ร้าน Powerbuy หรือ แบรนด์ชอปต่างๆของมือแต่ละยี่ห้อ ร้านใหญ่ สวย ทันสมัย น่าเชื่อถือ พร้อมกับโปรโมชั่นแรงๆ
แม้จะมีความเสี่ยงแต่โอกาสของธุรกิจร้านมือถือ แบบร้านตู้หรือร้านมือถือขนาดเล็ก ยังมีอยู่มาก เนื่องจาก เข้าถึงได้ง่าย ราคาต่อรองได้ยืดหยุดกว่าร้านใหญ่ๆ ถ้าบริการดีๆ รวดเร็วทันใจ มีจุดขายเฉพาะตัว ร้านมือถือเล็กๆแบบร้านตู้ ก็ทำกำไรให้คุณรวยได้เช่นกัน