บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ชะลอเปิดโครงการใหม่ หลังยอดปี 2557 ไม่เป็นไปตามเป้าในต่างจังหวัด ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์หัวเมืองต่างๆ ไม่คึกคัก มีการยกเลิกเปิดโครงการหลายแห่ง แสนสิริยอมเจ็บตัวคืนเงินลูกค้าที่อุดรธานี พร้อมหยุดก่อสร้าง คาดว่าหัวเมืองใช้เวลา 1 ปีดูดซับซัพพลายจำนวนมาก ด้านพฤกษาปรับแผนธุรกิจใหม่หลังสถานการณ์ไม่เป็นใจ
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัดซบเซาหรือชะลอตัวอย่างรุนแรงในปี 2557 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ขณะนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางที่ขยายการลงทุนในยังหัวเมืองต่างจังหวัดก่อนหน้านี้ทั้ง อุดรธานี ขอนแก่น หนองคาย ภูเก็ต สงขลา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ต่างชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่กันทุกราย โดยเฉพาะในจังหวัดอุดรธานีที่ผู้ประกอบการคือแสนสิริ ทยอยคืนเงินให้ลูกค้าที่จองโครงการไปแล้ว หลังจากพบว่ายอดขายไม่กระเตื้อง
แอลพีเอ็นก็ชะลอเปิดตัวโครงการที่ 2 เนื่องจากพบว่าลูกค้าไปรับโอนโครงการแรกที่ก่อสร้างแล้วเสร็จไม่มากนัก นอกจากนี้ ยังพบว่าที่ภูเก็ตนั้นค่ายใหญ่ทั้งพฤกษาและศุภาลัยรวมถึงแสนสิริที่ขยายการลงทุนไปก่อนหน้านี้หลายโครงการนั้นปรากฏว่าขณะนี้ทุกค่ายชะลอหรือเลื่อนเปิดโครงการออกไปเช่นกันโดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมเพราะต้องรอให้ซัพพลายเดิมที่มีอยู่ดูดซับออกไปก่อนซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า1 ปี
ทางด้าน เรียลเอสเตท นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือพีเอสเปิดเผยว่า ได้ปรับแผนธุรกิจระยะ 5 ปี (2558-2562) ใหม่ โดยตั้งเป้าหมายรายได้และยอดขายใกล้เคียงกันที่กว่า 1 แสนล้านบาทในปี 2562 หรือมีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ภายใต้การประมาณการอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) เฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 4-5% และภาคอสังหาริมทรัพย์มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 5-7% ต่อปี หรือมีมูลค่าตลาดในปี 2562 ประมาณ 8 แสนล้านบาท จากปัจจุบันที่มีมูลค่ารวมอยู่ที่ราว 6 แสนล้านบาท “เดิมตั้งเป้าว่ารายได้ทะลุแสนล้านบาทในปี 2560 แต่จากปัญหาสถานการณ์การเมืองในประเทศ รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทจึงต้องปรับแผนธุรกิจใหม่เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ โดยจะขยายโครงการในกรุงเทพฯและปริมณฑล และต่างจังหวัดในหัวเมืองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ เช่น ภูเก็ต สงขลา นครศรีธรรมราช อุดรธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา ขอนแก่น ระยอง ชลบุรี เชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี เป็นต้น รวมทั้ง จะรุกขยายโครงการในต่างประเทศเพิ่มหลังจากที่ชะลอไป โดยเน้นประเทศอินเดีย” นายทองมากล่าว
นอกจากนี้นายทองมากล่าวว่า คาดว่าปีนี้อสังหาฯจะขยายตัวประมาณ 10% มูลค่า 3.3 แสนล้านบาท โดยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา สะท้อนจากยอดขายของบริษัทช่วงเดือนมกราคมที่มียอดขายรวม 3.4 พันล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2.5 พันล้านบาท
ขอบคุณ มติชนออนไลน์