รอยยิ้มจากใจ การตลาดขั้นเทพ เรื่องง่ายๆ ที่สร้างพลังทวีมหาศาล

ยอดขาย คือเป้าหมายสุดท้ายของการทำการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าหรือบริการ ในแต่บริษัทหรือร้านค้า ร้านบริการมากมาย ต้องมีการโฆษณา การทำการตลาด เพื่อดึงดูด สร้างความสนใจ สร้างความพึงพอใจ ให้ลูกค้ามาใช้สินค้าและบริการของตัวเอง จึงให้ต้องมีงบโฆษณาทำการตลาดมหาศาล แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นสุดยอดของการตลาด ที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มแม้สักสตางค์เดียว แต่กลับมีพลังมหาศาลมากมายในการดึงดูดลูกค้าได้ดี นั่นคือ “รอยยิ้ม”

รอยยิ้มอย่างจริงใจ จากใจ สุดยอดพลังดึงดูด

เชื่อหรือไม่ว่า มีร้านค้าและบริการมากมาย ที่พลาดเรื่องนี้ไป มัวแต่ไม่ทุ่มเงินโฆษณา สร้างโฆษณา เพื่อลงสื่อต่างๆ หมดเงินลงทุนมากมายเท่าไหร่ หรือเข้าคอร์สอบรมทางการตลาดมากมาย แต่ยังไม่ได้ผลตอบแทนเท่าที่ต้องการ แม้จะมีสินค้า จำนวนสาขา จำนวนพนักงานมากมาย บวกกับการโฆษณาโปรโมทผ่านสื่อต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้ผลสักที เพราะมัวแต่ไปโฆษณาที่อื่นอยู่ แต่ลืมโฆษณาตัวเอง

ควรเชื่อหรือน่าคิดหรือไม่ว่า สินค้าและบริการมากมายในตลาดที่เหมือนๆกัน ราคาไม่แตกต่างกัน ทำไมขายดีไม่เท่ากัน บางอย่างแตกต่างกันตั้งมากมายทั้งๆที่สินค้าและบริการอันเดียวกัน แม้แต่ร้านเดียวกันแต่ต่างสาขา ศักยภาพทำเลเท่าพอๆกัน จำนวนสินค้าและพนักงานเท่ากัน แต่ สาขาหนึ่งขายดีกว่าอีกหลายๆสาขาเป็นเท่าตัวก็มี ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจเคยลองแฝงตัวเข้าไปใช้บริการร้านของตัวเองดูหรือไม่….แล้วคุณอาจจะพบว่าร้านที่มีการขายสินค้าและบริการได้มากกว่า มักจะมีพนักงานที่มีอัธยาศัยดี สุภาพ ยิ้มแย้ม ทักทายเก่งพูดโน้มน้าวเก่ง(แต่ไม่ใช่พูดเก่ง) สร้างความประทับใจแก่ลูกค้า ….นั่นจึงมีคำพูดว่า พี่จะซื้อกับน้องนะ หรือเดี่ยวพี่จะกลับมาซื้อกลับน้อง หรือพี่ซื้อกับน้องเลยละกัน สรุปง่ายๆว่า เขาซื้อสินค้าเพราะคน ไม่ใช่เพราะสินค้า จึงมักพบว่ามีสินค้าคุณภาพดีมากมายแต่ขายไม่ได้….สุดท้ายแล้วรอยยิ้มอย่างจริงใจของพนักงานจะกลายเป็นรอยยิ้มของแบรนด์ ดังนั้นจึงทำให้เขาซื้อเพราะแบรนด์ กลายเป็นว่าร้านนี้บริการดี แบรนด์นี้ดูแลลูกค้าดี สุดท้าย…เลือกแบรนด์นี้ ยี่ห้อนี้นะเธอ เขามีสินค้าและยริการดี นั่นไงเกิดการบอกต่อแล้ว

อีกเรื่องที่คนต่างชาติชอบมาเที่ยวเมืองไทย เพราะรอยยิ้มของคนไทย

ถ้าคุณเคยไปเที่ยวประเทศอื่นๆ จากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง อย่างไปเที่ยวจีนและไต้หวันมา สิ่งที่ต่างกันกับประเทศไทบบ้านเราคือ แค่ผ่านด่านตรวจหนังสือเดินทางก็ต่างกันแล้ว ส่วนใหญ่เขาไม่ค่อยยิ้มทักทาย แถมตรวจเสร็จโยนหนังสือเดินทางให้อีกต่างหาก จะประทับใจลงได้อย่างไรแต่ทีแรก ส่วนเมืองไทย ทั้งยิ้มทั้งไหว้ ทำไมฝรั่งจึงชอบมา…อย่างอื่นไม่รู้หละที่เที่ยว ผู้คนภายในประเทศ สินค้าและบริการจะเป็นอย่างไร แต่ยิ้มเปิดใจ ประทับใจแรกไปแล้ว..ยิ้มสวยๆจากใจ สร้างมูลค่าทางใจ ไม่ต้องลงทุนเป็นเงินสักสตางค์เดียว

ยิ้มกันให้ทั้งองค์กร เรื่องน่าคิดเพราะนี่คือพลังโฆษณาที่ทรงพลัง ไม่ต้องมีต้นทุน

การยิ้ม ในทางจิตวิทยาก็รู้ๆกันอยู่แล้วว่า เป็นเรื่องที่ดี แม้จะยิ้มมาจากจิตใจจริงๆหรือยิ้มด้วยสมองสั่งให้ต้องยิ้ม แต่ผลของมันคือทำให้ใบหน้าของเราน่าดูคนเห็นยิ้มตอบ และที่สำคัญคนยิ้มเองแม้อารมไม่ดี แต่พอยิ้มแล้วกลับทำให้ใจเย็นและอารมดีขึ้นมาได้ ลดความเครียด ลดโรคไปในตัว เมื่อนำมาใช้กับองค์กร เชื่อไหมว่า จะมีแต่คนอยากจะมาใช้บริการ การยิ้มอาจจะไม่ทำให้เกิดผลแบบมหาศาลทันตา ยอดกระฉูดใจ แต่จะค่อยๆสะสมพลังทวี แล้วจะแสดงผลออกมา อย่างมหาศาล เมื่อรวมกับการทำการตลาดในปกติแล้ว จะยิ่งทำให้รักษาฐานลูกค้าได้ดีและนาน…ลูกค้าเข้ามาใช้แล้ว เจอรอยยิ้ม เจอคำพูดยิ้ม บวกกับสินค้าที่คุณภาพสมราคาที่คุณโฆษณาออกไป แล้วลูกค้าจะไปไหนเสีย..จริงไหม นี่แหละการตลาดขั้นเทพ ไม่ต้องลงทุนสักสตางค์ ด้วย รอยยิ้มจากใจ

บทความโดย แอดมิน บางกอกทูเดย์ดอทเน็ต

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *