ธุรกิจขายตรง ถ้าเป็นสมัยก่อนคงต้องอธิบายยืดยาว แต่สมัยนี้ไม่ต้องพูดอะไรมากก็เข้าใจแล้วเพราะว่ามีคนอธิบายเต็มไปหมดทั้ง นักธุรกิจขายตรงที่ออกหาสมาชิกเข้าร่วมธุรกิจ ทั้งทางโฆษณาในทีวี เว็บไซต์ อื่นๆอีกมาก แต่ว่าเข้าใจหลักการและความสวยงามของธุรกิจขายตรงจริงๆหรือยัง น่าจะยังน้อยเพราะส่วนใหญ่แล้วคนมักจะเข้าใจกันอีกแบบว่ามันคืองานหรือ ธุรกิจที่ไม่ต้องทำงานหนักอะไรแล้วได้เงินมาง่าย แค่สมัคร สั่งซื้อสินค้า หาคนมาสมัครแล้วทำเหมือนเราก็จบหรือหาคนมาฟังแม่ทีมหรือทีมงานอธิบายให้ทั้งแบบตัวต่อตัวหรือห้องประชุม เพราะแบบนี้ขายตรงไทยเลยเสียบรรยากาศเลย
ธุรกิจขายตรงหรือธุรกิจเครือข่าย MLM ไม่ได้ต่างกับธุรกิจอื่นๆมากนักเพียงแต่ช่องทางกระจายสินค้าเป็นแบบเชิงรุกคือ ใช้คนในการกระจายสินค้า รับส่วนแบ่งกำไรตามยอดซื้อ เพราะยอดซื้อจะแปลงให้เป็นค่าที่นำมาคิดเป็นเงินจ่ายตามสัดส่วนหรือแผนการ ตลาดที่ตั้งไว้ของแต่ละบริษัทจะเรียกค่านี้ว่า คะแนน ภาษาธุรกิจอาจจะเรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัท
ข้อดีของธุรกิจขายตรง
ธุรกิจขายตรงคือธุรกิจแห่งความเสมอภาค เพราะว่าถ้าเป็นธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจแบบมีธรรมภิบาลในธุรกิจขายตรงแล้ว จะมีการลงทุนน้อยมาก ไม่ต้องลงทุนเปิดหน้าร้าน(เพราะใช้เงินมาก คนทุนน้อยจะเสียเปรียบทันที คนมีเงินมากจะมีโอกาสมากว่า) ไม่ต้องสต็อกสินค้าก็ได้ ค่าสมัครไม่มากทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เปิดโอกาสให้เรียนรู้ฟรีจากทีมงาน เพราะทีมงานอยากจะช่วยเหลืออยู่แล้ว เพราะยิ่งช่วยให้คนอื่นมีรายได้มากขึ้นเท่าไหร่เขาก็จะได้รับผลตอบแทนจาก ธุรกิจที่บริษัทจ่ายให้มากเท่านั้น จะโกรธเขาไหมล่ะถ้าเขาช่วยให้คุณมีรายได้มากแล้วเขาก็ได้มากตาม win win
ลงทุนน้อยเมื่อเทียบกับโอกาสผลตอบแทนที่จะได้รับ เพราะธุรกิจขายตรงที่มีธรรมภิบาล บริษัทจะไม่บังคับให้สมาชิกซื้อสินค้าหลังจากสมัครหรืออัพไลน์จะไม่พูดโน้ม น้าวจูงใจให้ซื้อสินค้ามาสต็อกไว้จำนวนมากเกินความสามารถที่จะขายได้ แน่นอนว่าคนที่สมัครเข้ามาใหม่จะเชี่ยวชาญในธุรกิจหรือขายสินค้าได้จำนวนมาก ได้อย่างไร เอาเป็นว่าถ้าสนใจธุรกิจขายตรงนี้เริ่มต้นสมัครก่อน ค่อยๆเรียนรู้ ลงมือทำอย่างต่อเนื่องปรับตัวและเรียนรู้ไปเรื่อยๆทั้งด้านงานขายสินค้า การขยายเครือข่ายธุรกิจ การบริหารทีม และอื่นๆ ระวังประเภทที่ว่าสมัครเปิดรหัสเข้ามาแล้วให้ลงทุนซื้อของจำนวนมาก เช่น เปิดรหัสธุรกิจแบบ………(ชื่อเรียกหรูๆ) 3,000 บาท ,5000 บาท, 20,000 บาท …ยิ่งเปิดมากยิ่งดี เพราะจะได้เงินมากยิ่งชวนคนมาทำเหมือนเราได้มาก ยิ่งจะรวยเร็ว ถ้าแบบนี้ลองทบทวนดีๆครับ
ไม่ต้องมีประสบการณ์ความรู้ก็เริ่มได้เลย เพราะว่าในธุรกิจขายตรง จะมีทีมหรืออัพไลน์คอยสนับสนุนการทำธุรกิจ ให้ความรู้ สอนทำการตลาด ตลอดจนให้กำลังใจคำแนะนำเมื่อเจอปัญหา สรุปก็คือมีคนสอนทำธุรกิจให้เราฟรีๆหรือมีค่าใช้จ่ายน้อย เพราะอัพไลน์หรือแม่ทีมเขาจะได้ผลตอบแทนจากที่ธุรกิจของเราเติบโต ยิ่งเรามียอดมากรายได้เรามากเขาก็จะได้มากตามไปด้วย ได้กันทั้งสองฝ่าย เพราะแผนธุรกิจออกแบบมาให้ช่วยกัน
ไม่ต้องใช้เวลามากต่อวันก็ทำขายตรงได้ ที่จริงแล้วในชีวิตของเราทุกคนก็ทำการขายทุกวัน เช่นขายแรงงาน เข้างานตอกบัตร ออกงานตอกบัตร นี่คือการขาย ขายบริการต่างๆ ขายสินค้า ส่วนธุรกิจขายตรงก็ขายเหมือนกันใช้เวลาไม่มาก เพราะธุรกิจนี้คือการสร้างเครือข่ายผู้บริโภคสินค้าโดยเริ่มจากตัวเรา ใช้สินค้าที่เราขายเอง ใช้แค่เวลาซื้อมาใช้ พอใช้ดีประทับใจค่อยๆแนะนำต่อๆไป ไม่ใช่ว่าเราต้องเดินออกไปขายทั้งวัน มันไม่ใช่ เราขายง่ายๆโดยขายให้ตัวเองก่อน จะใช้เวลาอะไรมากมาย เมื่อเครือข่ายเราขยายมากขึ้น คนเปลี่ยนมาใช้สินค้าที่ตัวเองเป็นตัวแทนขาย ยอดขายรวมมากเอง เวลาคิดเงินบริษัทจะคิดรวมทั้งองค์กรของเรา ดังนั้นแล้วรายได้จากธุรกิจไม่มีเพดานอยู่แล้วขึ้นอยู่กับยอดขาย
สามารถโอนรหัสสมาชิกให้กับทายาทได้ เมื่อธุรกิจเราเติบโตขยายใหญ่แล้ว เราสามารถโอนธุรกิจส่งต่อไปยังลูกหลานได้ เหมือนธุรกิจอื่นทั่วไป แต่ข้อดีคือแม้ว่าคนรับช่วงธุรกิจต่อจะไม่มีความรู้เรื่องขายตรงแต่ก็อาจจะ มีรายได้มากกว่าก็ได้เพราะทีมธุรกิจที่เราสร้างไว้ถ้ามีระบบถ่ายทอดอบรม ธุรกิจที่ดีแล้ว
นี่คือข้อดีแบบสรุปรวบรัดว่าทำไมธุรกิจ ขายตรงคนจึงสนใจสมัครกันมาก เพราะมันคือโอกาสของมหาชนคนทั่วไปที่เข้าสู่ธุรกิจนี้ได้ แต่ทว่าคนที่สำเร็จมีรายได้เป็นรายได้หลักเลี้ยงครอบครัวนั้นกลับมีจำนวน น้อย และมีจำนวนอีกมากที่มีรายได้จากธุรกิจขายตรงหรือ MLM เป็นรายได้เสริม ทำให้ชีวิตดีขึ้น มากที่สุดคือคนที่ไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดไว้เพราะสมัครแบบลองๆทำหรือไม่ ต่อเนื่องหรือมีเหตุผลอื่นๆ..แต่ไม่ใช่จะเป็นแบบนี้ที่ว่ามา 100% ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากของแต่ละคนที่ส่งผลต่อความสำเร็จในธุรกิจ ขอให้บทความนี้เป็นแนวทาง อีกแนวความคิดเห็นไว้ประกอบการตัดสินใจทำธุรกิจขายตรง
By Bangkoktoday.net