ลงทุน ‘ตราสารหนี้ ( Fixed Income Securities)’ อย่างไรให้ Smart เตรียมพร้อมก่อนเริ่มลงทุน

ลงทุน ‘ตราสารหนี้  Fixed Income Securities ’ อย่างไรให้ Smart เตรียมพร้อมก่อนเริ่มลงทุน ตราสารหนี้เป็นสินทรัพย์ทางการเงินประเภทหนึ่งที่ผู้ลงทุนให้เงินกู้ยืมแก่ผู้ออกตราสารหนี้ โดยผู้ออกตราสารหนี้จะตกลงจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ลงทุนเป็นงวดๆ และจ่ายคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนดอายุ ซึ่งตราสารหนี้มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่เช่นกัน จึงควรศึกษาข้อมูลและเตรียมความพร้อมก่อนตัดสินใจลงทุน

แนวทางการลงทุนในตราสารหนี้ที่ดี

  1. เข้าใจความเสี่ยงของตราสารหนี้

ก่อนตัดสินใจลงทุนในตราสารหนี้ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความเสี่ยงของตราสารหนี้แต่ละประเภท โดยความเสี่ยงของตราสารหนี้สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

  • ความเสี่ยงด้านเครดิต คือ ความเสี่ยงที่ issuer หรือผู้ออกตราสารหนี้จะไม่ชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามกำหนด ซึ่งความเสี่ยงด้านเครดิตจะแตกต่างกันไปตามคุณภาพเครดิตของผู้ออกตราสารหนี้ โดยตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจจะมีความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำที่สุด ในขณะที่ตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทเอกชนจะมีความเสี่ยงด้านเครดิตสูงกว่า
  • ความเสี่ยงด้านราคา คือ ความเสี่ยงที่ราคาของตราสารหนี้จะเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งความเสี่ยงด้านราคาจะแปรผันตามอัตราดอกเบี้ยในตลาด โดยตราสารหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าจะมีความเสี่ยงด้านราคาต่ำกว่า
  1. กำหนดเป้าหมายการลงทุน

ก่อนตัดสินใจลงทุนในตราสารหนี้ ควรกำหนดเป้าหมายการลงทุนก่อนว่าต้องการผลตอบแทนเท่าไหร่ และต้องการความเสี่ยงระดับใด โดยเป้าหมายการลงทุนจะช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกตราสารหนี้ที่เหมาะสมกับตนเองได้

  1. กระจายความเสี่ยง

การกระจายความเสี่ยงเป็นหนึ่งในหลักการสำคัญของการลงทุน โดยนักลงทุนควรลงทุนในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ และตราสารหนี้ของผู้ออกต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวการลงทุน

  1. ติดตามข่าวสารและข้อมูลการลงทุน

ควรติดตามข่าวสารและข้อมูลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน

  1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หากนักลงทุนไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ในการลงทุนในตราสารหนี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำ

ประเภทของตราสารหนี้ ตราสารหนี้มีหลากหลายประเภท แบ่งตามลักษณะของผู้ออกตราสารหนี้ ดังนี้

  • ตราสารหนี้ภาครัฐ เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีความน่าเชื่อถือสูงและความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำที่สุด โดยตราสารหนี้ภาครัฐที่นิยมลงทุน ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรออมทรัพย์ ตั๋วเงินคลัง
  • ตราสารหนี้ภาคเอกชน เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทเอกชน ซึ่งมีความน่าเชื่อถือต่ำกว่าตราสารหนี้ภาครัฐ โดยตราสารหนี้ภาคเอกชนที่นิยมลงทุน ได้แก่ หุ้นกู้ ตั๋วเงินระยะสั้น ตั๋วแลกเงิน

ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนลงทุนในตราสารหนี้ นอกจากความเสี่ยงด้านเครดิตและความเสี่ยงด้านราคาแล้ว นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ในการคัดเลือกตราสารหนี้ ได้แก่

  • ประเภทของตราสารหนี้
  • อายุของตราสารหนี้
  • อัตราดอกเบี้ย
  • สภาพคล่อง

ตัวอย่างการลงทุนในตราสารหนี้

  • ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 5%
  • ลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่มีอันดับเครดิต A+ อัตราดอกเบี้ย 6%
  • ลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะกลางที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกู้ระยะ 3-5 ปี

ข้อควรระวังในการลงทุนในตราสารหนี้

  • ความเสี่ยงด้านเครดิต หากผู้ออกตราสารหนี้ผิดนัดชำระหนี้ นักลงทุนอาจสูญเสียเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งหมด
  • ความเสี่ยงด้านราคา ราคาของตราสารหนี้อาจเปลี่ยนแปลงไปตามอัตราดอกเบี้ยในตลาด โดยหากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ราคาของตราสารหนี้จะลดลง และในทางกลับกัน หากอัตราดอกเบี้ยลดลง ราคาของตราสารหนี้จะสูงขึ้น
  • ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ตราสารหนี้บางประเภทอาจซื้อขายได้ยากหรือมีสภาพคล่องต่ำ

การลงทุนในตราสารหนี้เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและมีความเสี่ยงต่ำ อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตราสารหนี้ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่เช่นกัน จึงควรศึกษาข้อมูลและเตรียมความพร้อมก่อนตัดสินใจลงทุน

สำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ การเงินและการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD

Related Posts