Value Investment คืออะไร หุ้นแบบไหนที่เรียกว่า VI ? Value Investment หรือ การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เป็นแนวทางการลงทุนที่มุ่งเน้นการซื้อหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง โดยนักลงทุนสาย VI จะทำการวิจัยและวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทอย่างละเอียด เพื่อหาหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตสูง แต่ราคาหุ้นต่ำกว่าราคาที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน
หุ้นสาย VI คืออะไร : หุ้นสาย VI คือหุ้นที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า โดยหลักๆ แล้ว หุ้นสาย VI จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- มูลค่าหุ้นต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง หมายถึง ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานของกิจการที่คำนวณได้จากปัจจัยพื้นฐานต่างๆ เช่น กำไรต่อหุ้น (EPS), อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E), อัตราส่วนมูลค่าหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV), กระแสเงินสดต่อหุ้น (DPS) เป็นต้น
- มีศักยภาพการเติบโตสูง หมายถึง กิจการมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมที่เติบโตได้ดี, ผู้บริหารที่มีฝีมือ, ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ได้รับความนิยม
- มีความเสี่ยงต่ำ หมายถึง กิจการมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง มีหนี้สินน้อย และไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกมากนัก
ข้อดีและข้อเสียของการลงทุนแบบ VI
ข้อดี
- มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูง เนื่องจากซื้อหุ้นในราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
- ความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดีและมีโอกาสเติบโตสูง
- เหมาะกับนักลงทุนที่เน้นการลงทุนระยะยาว
ข้อเสีย
- ต้องใช้ความพยายามในการวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล
- ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลตอบแทน
- มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นช้ากว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ
วิธีเลือกหุ้นสาย VI : นักลงทุนสาย VI สามารถพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อเลือกหุ้นที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
- อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) : ควรเลือกหุ้นที่มี P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
- อัตราส่วนมูลค่าหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) : ควรเลือกหุ้นที่มี P/BV ต่ำกว่า 1
- กระแสเงินสดต่อหุ้น (DPS) : ควรเลือกหุ้นที่มี DPS สูง
- การเติบโตของกำไรสุทธิ : ควรเลือกหุ้นที่มีกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่อง
- ฐานะทางการเงิน : ควรเลือกหุ้นที่มีหนี้สินน้อย
- ผู้บริหาร : ควรเลือกหุ้นที่มีผู้บริหารที่มีประสบการณ์และมีความรับผิดชอบ
ตัวอย่างหุ้นสาย VI : ตัวอย่างหุ้นสาย VI ในประเทศไทย ได้แก่
- บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC)
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT)
- บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BDMS)
- บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (TLI)
- บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN)
การลงทุนแบบ VI เป็นแนวทางการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงและความเสี่ยงต่ำ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสาย VI จำเป็นต้องมีความพยายามในการวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเลือกหุ้นที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า อ่านบทความเกี่ยวกับการลงทุนอื่นๆ คลิก
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก INNOVESTX และ SET ด้วยนะคะ