8 วิธีแก้ปัญหา อาการนอนกรน(Snoring) ได้ผลจริง

สวัสดีค่า หลายท่านกำลังประสบปัญหาการนอนกรนอยู่ใช่ไหมคะ การนอนกรนเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้คนทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ชาย สาเหตุของการนอนกรนเกิดจากอวัยวะในทางเดินหายใจส่วนบนเกิดการอุดกั้น ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนักตัวมาก ภูมิแพ้ คอหอยแคบ จมูกตัน เป็นต้น การนอนกรนอาจส่งผลกระทบต่อทั้งตัวผู้นอนเองและคู่นอน เช่น นอนหลับไม่สนิท ตื่นบ่อย รู้สึกเหนื่อยล้าในตอนเช้า เป็นต้น หากพบว่าตนเองมีอาการนอนกรน ควรรีบหาวิธีแก้ไข เพราะการนอนกรนอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ เช่น เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เราได้สรุปเป็น 8 วิธีแก้ปัญหานอนกรน ได้ดังนี้

1. เปลี่ยนท่านอน
ท่านอนหงายเป็นท่าที่ทำให้เกิดการนอนกรนมากที่สุด เพราะเป็นท่าที่ลิ้นและเนื้อเยื่อในช่องปากจะตกลงมาปิดทางเดินหายใจได้มากที่สุด ดังนั้น ควรพยายามเปลี่ยนท่านอนเป็นท่านอนตะแคงหรือท่านอนคว่ำ ซึ่งจะช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้นและช่วยลดการกรนได้

2. ลดน้ำหนัก
น้ำหนักตัวที่มากเกินไปเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการนอนกรน ดังนั้น หากมีน้ำหนักตัวมาก ควรพยายามลดน้ำหนักลง ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อในช่องปากและลำคอกระชับขึ้น และช่วยลดการอุดกั้นทางเดินหายใจได้

3. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และยานอนหลับ
แอลกอฮอล์และยานอนหลับจะทำให้กล้ามเนื้อในช่องปากและลำคอผ่อนคลายลง ซึ่งอาจทำให้ทางเดินหายใจอุดกั้นได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และยานอนหลับก่อนนอน

4. รักษาโรคภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ เช่น โรคภูมิแพ้จมูกอักเสบ อาจทำให้เยื่อบุจมูกบวม ส่งผลให้ทางเดินหายใจแคบลง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการนอนกรนได้ ดังนั้น หากมีโรคภูมิแพ้ ควรรักษาโรคให้หายขาดหรือควบคุมอาการให้อยู่ในระดับต่ำ

5. บริหารกล้ามเนื้อในช่องปากและลำคอ
การฝึกบริหารกล้ามเนื้อในช่องปากและลำคอ จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อและลดการอุดกั้นทางเดินหายใจได้ โดยสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
การออกเสียงสระตัว “อ” นานๆ
การออกเสียงตัว “ย” และ “ว” ซ้ำๆ
การออกเสียง “เฮ” ขณะหายใจเข้า

6. ใช้อุปกรณ์ช่วยนอน
อุปกรณ์ช่วยนอน เช่น แผ่นรองคาง แผ่นรองจมูก หรือเครื่องช่วยหายใจแรงดันบวก จะช่วยดันเนื้อเยื่อในช่องปากและลำคอให้เปิดกว้างขึ้น และช่วยลดการอุดกั้นทางเดินหายใจได้

7. ผ่าตัด
การผ่าตัดเป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษาอาการนอนกรน โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อแก้ไขความผิดปกติของอวัยวะในทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ขยายช่องปาก ตัดทอนซิลหรือต่อมทอนซิล เป็นต้น

8. ปรึกษาแพทย์
หากลองทำตามวิธีข้างต้นแล้วอาการนอนกรนยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

นอกจากวิธีข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการนอนกรนได้เช่นกัน เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มคาเฟอีน การนอนหลับไม่เพียงพอ เป็นต้น ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านี้ด้วย หากพบว่าตนเองมีอาการนอนกรน ควรรีบหาวิธีแก้ไข เพราะการนอนกรนอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ อย่างไรแล้ว อย่าลืมรักษาสุขภาพ และ ควบคุมอาหารกันด้วยนะคะ

Related Posts